พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร ที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย และอดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงกรณีเหตุการณ์นายอับดุลเลาะ อีซอมูซอ ผู้ต้องสงสัยคดีความมั่นคงช็อกหมดสติขณะถูกควบคุมตัวในหน่วยซักถาม ค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ว่า ถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ฝ่ายความมั่นคงจะต้องทำความจริงให้ปรากฎ หากเกิดจากการทำร้ายของเจ้าหน้าที่จะต้องลงโทษอย่างเด็ดขาดทั้งทางวินัยและอาญา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ตนเชื่อได้ว่าเรื่องนี้จะถูกขยายไปยังองค์การระหว่างประเทศ และเป็นเงื่อนไขการสร้างสถานการณ์ในพื้นที่ของผู้เห็นต่างต่อไป ต้องยอมรับว่านโยบายการแก้ไขปัญหาความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ของรัฐบาลที่ยึดแนวทางสันติวิธีโดยการพูดคุยสันติสุขถือเป็นนโยบายที่ถูกทาง แต่ยากต่อความสำเร็จในรัฐบาลนี้ เพราะรัฐบาลสืบทอดอำนาจนี้ต่อท่อมาจากรัฐบาลบาลเผด็จการ ซึ่งฝ่ายผู้เห็นต่างมองว่า เป็นปรปักษ์ จึงทำให้ขาดความไว้วางใจ
“รัฐบาลนี้จึงกลายเป็นตัวอุปสรรคและเงื่อนไขเสียเอง แต่เมื่อใดที่รัฐบาลเปลี่ยนมาเป็นรัฐบาลจากปีกประชาธิปไตยแทน ความไว้วางใจ และการมีส่วนร่วมจากภาคประชาชนจะเกิดประสิทธิภาพขึ้นทันที ทำให้การแก้ไขปัญหาความรุนแรงจะประสบผลสำเร็จตามนโยบาย อีกประการหนึ่งที่สำคัญมากๆคือรัฐบาลต้องทำให้สภาวะแวดล้อมในพื้นที่มีบรรยากาศเอื้อต่อการสร้างความไว้วางใจซึ่งกันและกัน โดยยกเลิกการประกาศกฎอัยการศึกในพื้นที่แล้วเปลี่ยนมาใช้กฎหมายความมั่นคงภายในที่ปรุงแต่งใหม่ให้เหมาะสมต่อการแก้ไขปัญหา รับรองได้ว่า สถานการณ์ในพื้นที่จะคลี่คลายลงได้ทันที ตัวชี้วัดที่สำคัญว่าการแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้สำเร็จ ก็คือต้องไม่มีการประกาศใช้กฎหมายพิเศษ” พล.ท.ภราดร กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง