ไม่พบผลการค้นหา
‘เศรษฐา’ ไม่หวั่นซูเปอร์โพลชี้ ‘เพื่อไทย’ ไม่แลนด์สไลด์ ลุยหาเสียงทำตามนโยบาย ‘คิดใหญ่ ทำเป็น’ ไม่มอง ‘ก้าวไกล’ เป็นคู่แข่งสำคัญในเขตเมือง ยันเงินดิจิทัล ตัวเงินไม่มีการขึ้นและลง ยันถูกกฎหมาย

วันที่ 15 เม.ย 2556 ที่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงนโยบายของพรรคเพื่อไทยจะสามารถเรียกคะแนนเสียงในพื้นที่ทหารให้กับผู้สมัคร ส.ส.ในจังหวัดราชบุรีได้หรือไม่ว่า ไม่มีเหตุผลที่พรรคเพื่อไทยจะเจาะเพื่อเรียกคะแนนเสียงไม่ได้ เพราะทหารก็เป็นประชาชนคนหนึ่ง ทหารก็ต้องการความกินดีอยู่ดีและ ต้องการสิทธิเสรีภาพในการเลือก และเข้าใจเรื่องที่ตนพูดเป็นอย่างดี โดยส่วนตัวมีความมั่นใจกับนโยบายของพรรคเพื่อไทยหลังจากได้มีการลงพื้นที่มาหนึ่งเดือนกว่า และได้รับการตอบรับจากประชาชนดี ซึ่งจะเดินหน้าขยายผลต่อไป ตนเชื่อว่าทหารทุกคนมีวุฒิภาวะพอ มีความเป็นตัวของตัวเองซึ่งก็ทราบว่า อะไรที่โดนใจประชาชน โอนมั่นใจในนโยบายคิดใหญ่ทำเป็น

เมื่อถามว่า ซูเปอร์โพลได้สำรวจคะแนนนิยมของพรรคการเมืองระบุพรรคเพื่อไทยอาจไม่แลนด์สไลด์และมีโพลชี้ว่าไม่ได้ถึง 200 เสียง นายเศรษฐา ระบุว่า ตนรับฟังความเห็นและไม่มีอะไรที่จะบั่นทอน ซึ่งตนก็ยังเดินหน้าปราศรัยพบกับพี่น้องประชาชน รับฟังพี่น้องประชาชนและเดินหน้าทำงานหนักกันต่อไป เสียงจะ 160-180-280 เสียง ก็ไม่ทำให้พรรคเพื่อไทยเกิดความย่อท้อ ทุกคนยิ้มแย้มแจ่มใสเดินหน้ากันทำงานต่อ

เมื่อถามย้ำว่าขณะนี้โพของสำนักข่าวบางสำนัก ออกมาปรากฏว่าพรรคเพื่อไทยได้ที่หนึ่ง พรรคก้าวไกลได้ที่สอง พรรครวมไทยสร้างชาติได้ที่3 ส่วนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พบว่า พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไล ที่1 แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยมาเป็นที่ 2 เศรษฐา ได้ที่ 3 เศรษฐา ระบุว่า ตอนที่ตอบหลักการเดียวตามซูเปอร์โพล ถ้าอะไรออกมาไม่ดีก็น้อมรับฟัง ถ้าออกมาดี ก็รับฟังอยู่ดี ยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงวิธีการทำงาน หรือหลักคิดของเรายืนยันพรรคเพื่อไทยยึด เอาประชาชนและความเจริญรุ่งเรือง เป็นที่ตั้ง

“ผมยังมั่นใจอยู่ว่าเสียงของฝ่ายประชาธิปไตย ในส่วนของพรรคเพื่อไทยก็ยังมั่นใจกับนโยบายของคณะเศรษฐกิจและผู้สมัคร ส.ส.เขต ว่าเรามีดีและเชื่อมั่นว่าจะได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชน” เศรษฐา ระบุ

เมื่อถามว่าพรรคก้าวไกล ถือว่าเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวหรือไม่ นายเศรษฐา ระบุว่า ตนไม่ได้ดูพรรคการเมืองอื่นเป็นคู่แข่ง ซึ่งตนก็เสมอต้นเสมอปลายมาตลอด เพราะคู่แข่งของต้นคือความยากจนและความลำบาก ความไม่เสมอภาค ความไม่เท่าเทียมที่มีอยู่ในสังคมไทยเราต้องแยก ดังน้้น เราต้องแยกกันในเรื่องของการขยายผลของนโยบาย แม้ว่าเขตเมืองในแต่ละจังหวัดที่พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลมักมีเสียงที่แข่งขันกันมาโดยตลอด ตนจะมุ่งเน้นนโยบายที่พรรคเพื่อไทยจะทำ และจะเน้นบางนโยบายให้มากขึ้น

เมื่อถามว่าถึงกรณีเศรษฐาได้พูดกับประชาชน จ.ราชบุรี ว่าอย่าให้ใครด้อยค่านโยบายของพรรคเพื่อไทยนั้น เศรษฐา ระบุว่า ตนทำหน้าที่เพียงเตือนสติ ว่าพรรคเพื่อไทยนั้นคิดใหญ่ทำเป็นเพื่อไทยทุกคน ซึ่งก็มีการออกมาในสื่อบางครั้งไม่ได้เกี่ยวข้องกันเลยที่มการพูดว่าเงินดิจิทัลจะมีการขึ้นและลง ยืนยันไม่มีการขึ้นและลง ได้เงินเท่าไรก็ได้เท่านั้น ทั้งนี้ไม่มีการซื้อขายในตลาดรอง

ตนเห็นว่าบางพรรคมีการชี้นำซึ่งก็ไม่ทราบว่าเป็นแท็คติกของบางพรรคการเมืองหรือไม่ทราบจริงๆ หรือไม่ แต่ถ้าประชาชนได้มีการอ่านนโยบายและฟังการปราศรัยของพรรคเพื่อไทย รวมทั้งการแถลงข่าวของคนสำคัญในพรรคเพื่อไทยก็จะทราบดีว่า เป็นนโยบายคิดใหญ่ทำเปนเพื่อไทยทุกคน ทั้งนี้ตนมั่นใจในนโยบายเงินดิจิทัลจะเป็นไปอย่างถูกต้องและถูกกฎหมาย

เศรษฐา G_9765.jpegเศรษฐา ชะวรลัทธิ์ _9764.jpeg