นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประธานรณรงค์หาเสียงพรรคไทยรักษาชาติ กล่าวถึงความไม่ชัดเจน ในตำแหน่งหน้าที่ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ว่า เรื่องนี้มีความชัดเจนอยู่แล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ แต่คนที่ทำให้ไม่ชัดเจนนั้น คือผู้ที่สนองต่อความต้องการทางการเมืองของพล.อ.ประยุทธ์
ขณะเดียวกันมองว่า นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย ไม่เหลือความเป็นนักกฎหมายอีกแล้ว เพราะการใช้วิชาความรู้ สนองตอบต่อเป้าหมาย ทางการเมืองของผู้มีอำนาจ โดยไม่คำนึงถึงหลักการใดใด จึงเป็นทำลายเกียรติภูมิเดิมของนายวิษณุทั้งหมด และหากยังพยายามอธิบายว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อให้รอดพ้นการขาดคุณสมบัติเป็นนายกรัฐมนตรี ยิ่งทำให้ตัวนายวิษณุ และคณะผู้มีอำนาจชุดนี้ ไม่เหลือสภาพ ที่จะดูแลบ้านเมืองอีกต่อไปแล้ว
"ฝ่ายผู้มีอำนาจกำลังทำเพียงเรื่องเดียว ที่จะให้พรรคของตนนั้นชนะการเลือกตั้ง โดยไม่สนวิธีการ และยังไม่คำนึงถึงเสียงวิพากวิจารณ์ เรื่องความชอบธรรม นี่จึงถือว่าเป็นความสุ่มเสี่ยงที่จะทำให้การเลือกตั้ง กลายเป็นการเลือกตั้งที่จะมีปัญหา มากที่สุดอีกครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ปี 2500 เคยมีการเลือกตั้งสกปรกแต่คราวนี้จนถึงวันนี้ ผมกังวลว่าความสะอาดจะไม่มีในการเลือกตั้งเช่นเดียวกัน ปี 2500 เคยมีการเลือกตั้งสกปรก แต่คราวนี้ จนถึงวันนี้ ผมกังวลว่า ความสะอาด จะไม่มีในการเลือกตั้งเช่นเดียวกัน ก็เหลือเวลาอีกไม่กี่วัน ผู้มีอำนาจควรแสดงเจตนา และก็ขวดตรงไปตรงมากับประชาชนบ้าง ถ้าจะขึ้นเวทีปราศรัย ก็ขึ้นเถอะครับ ไม่มีใครเห็นว่าเป็นปัญหา แต่ว่ายังมีความพยายามที่จะเบียดบังเวลาของรัฐ แล้วเก็บผลประโยชน์ทางการเมือง เอาเปรียบกันอยู่ตลอดเวลาอย่างนี้ ทำให้การเลือกตั้งคราวนี้ เพิ่งใครไม่ได้อีกแล้ว นอกจากพึ่งประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจเท่านั้น" นายณัฐวุฒิ กล่าว