นายวิทยา ชาติบัญชาชัย ผู้อำนวยการศูนย์ความร่วมมือระหว่างองค์การอนามัยโลก ด้านวิกฤติบำบัดและอุบัติเหตุ และประธานสนับสนุนการป้องกันอุบัติเหตุจราจร (สอจร.) เปิดเผยว่า  จากปีที่แล้ว 2561 ทีม สอจร. ซึ่งทำงานต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 7 แล้ว ทำให้มีภาคีเครือข่ายเข้มแข็งมากขึ้น และงานตามยุทธศาสตร์ 5 ด้านประกอบด้วย การสร้างภาคีเครือข่าย การพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสาร มาตรการองค์กร การผลักดันเรื่องของนโยบายสาธารณะ และการผลักดันสื่อสาธารณะให้ประชาชนได้ตระหนักในเรื่องของอุบัติเหตุทางถนน ใน ช่วงปีที่ผ่านมา 5 เรื่องนี้มีการขับเคลื่อนที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง

นายวิทยา กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ทำให้เกิดสิ่งที่จะทำต่อไปใน สอจร.8 จะให้ความสำคัญในเรื่องของเหตุที่เกิดบ่อยที่สุด คือ มอเตอร์ไซค์ ซึ่งเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตร้อยละ 80 โดยพื้นที่ระดับชุมชน - ตำบล จะเป็นด่านหน้าที่เราควรสกัดให้เกิดอุบัติเหตุน้อยลง ในครั้งนี้นอกจากการสื่อสารภายในแวดวง เครือข่าย หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว จะมียุทธวิธีในการสื่อสาร และนำไปสู่ชุมชนสู่สังคมที่กว้างขวางขึ้นอีก โดยต้องศึกษาเทคนิค ยุทธวิธี ที่ทำให้เรื่องเหล่านี้ไปสู่ชุมชนมากยิ่งขึ้น

วิทยา ชาติบัญชาชัย ปธ.สอจร.

“เป้าหมาย สอจร.ปีที่ 8 ยอมรับว่า มีความคาดหวังสูงมากในเรื่องของภาคีเครือข่าย เพราะที่ผ่านมา ได้ขยายความร่วมมือไปถึงแนวร่วมอีกมากมาย นอกเครือข่าย สอจร. ทั้งในส่วนของภาคการเมืองเอง ภาครัฐบาล หรือภาคประชาสังคม ภาควิชาการกว้างขวางมาก เราคาดหวังไปไกลถึงขั้นผลักดันให้มีสถาบันองค์กรความปลอดภัยทางถนนให้เกิดขึ้น เพื่อรับภาระในเรื่องของการผลักดันหรือดำเนินการทางเรื่องยุทธศาสตร์ความปลอดภัยทางถนน ให้เกิดขึ้นอย่างเป็นระบบไปในภายหน้า มีบทบาททางวิชาการ ให้ข้อเสนอแนะด้านการบริหารจัดการ การบังคับใช้กฎหมาย การสร้างมาตรฐานยานพาหนะ สามารถเสนอต่อหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง และสาธารณชน” นายวิทยา กล่าว

ด้าน น.ส.รุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ ผอ.สำนัก 10 สสส. กล่าวว่า หลังสร้างคณะทำงานในลักษณะเครือข่ายในพื้นที่ลักษณะพี่เลี้ยงที่ผ่านมาพบว่าได้ผลดีมาก ในปีนี้จะทดลองสร้างเครือข่ายในระดับชุมชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยเน้นที่รถมอเตอร์ไซด์ เพราะเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดการบาดเจ็บและเสียชีวิตมากที่สุด เป็นเรื่องที่ท้าทายกับวิธีคิดและแนวปฏิบัติของชุมชน เช่น การเดินทางในระยะใกล้ๆ ควรใส่หมวกกันน็อคทุกครั้งให้เป็นความเคยชิน ซึ่งพี่เลี้ยง สอจร. เป็นส่วนสำคัญ ที่เข้าไปช่วยปรับวิธีคิด โดยใช้วัฒนธรรม ผสมผสานกับนวัตกรรมใหม่ เข้าไปสอดแทรกให้ความรู้ เป็นตัวกลางเชื่อมระหว่างภาครัฐกับประชาชน ให้เข้าใจและยอมรับในการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อให้อุบัติเหตุลดลง โดยมีหลายพื้นที่ที่ประสบความสำเร็จมาแล้ว ซึ่งจะเป็นแบบอย่างให้กับการทำงานในพื้นที่อื่นๆ ต่อไป 

รุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ ผอ.สำนัก 10 สสส.

ระดมความคิด สอจร.8