ไม่พบผลการค้นหา
โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ตำหนิ โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ และคู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน โดยกล่าวว่าการรณรงค์ Make America Great Again (MAGA) หรือการทำให้อเมริกากลับมาอีกใหญ่อีกครั้งของทรัมป์นั้น เป็น “ขบวนการหัวรุนแรงที่ไม่มีความเชื่อพื้นฐานในระบอบประชาธิปไตยของเรา”

ในระหว่างการจัดงานรำลึกเพื่อเป็นเกียรติแก่ จอห์น แมคเคน อดีตวุฒิสมาชิกจากพรรครีพับลิกันผู้ล่วงลับในเมืองเทมพี มลรัฐแอริโซนา เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (28 ก.ย.) ไบเดนกล่าวว่า แม้ว่าสมาชิกพรรครีพับลิกันบางคนจะไม่ยึดมั่นกับการเคลื่อนไหวดังกล่าวของทรัมป์ แต่ปัจจุบันพรรคนี้ พรรครีพับลิกันกลับ “ถูกขับเคลื่อนและข่มขู่ โดยกลุ่มหัวรุนแรงในพรรครีพับลิกันของ MAGA”

“วาระสุดโต่งของพวกเขา หากยังดำเนินการต่อไป จะเปลี่ยนสถาบันประชาธิปไตยของอเมริกาโดยพื้นฐานเท่าที่เรารู้จักกันมา” ไบเดนกล่าวโจมตีทรัมป์

ไบเดนพยายามทำให้ประเด็นการปกป้องระบอบประชาธิปไตยและสถาบันของรัฐ เป็นกุญแจสำคัญในการหาเสียงเลือกตั้งครั้งใหม่ของเขาในปี 2567 ในขณะที่การแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ กำลังเพิ่มอุณหภูมิที่พุ่งสูงขึ้น ทั้งนี้ เพื่อการชนะการเลือกตั้งในวาระที่ 2 ไบเดน ซึ่งเป็นประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต ต้องวางท่าทีของตัวเองให้เป็นขัดแย้งกับทรัมป์ ซึ่งเป็นอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกันคนก่อน

ในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ ไบเดนไม่ได้เอ่ยถึงชื่อของทรัมป์โดยตรง หลังจากที่ในช่วงเวลาปัจจุบันนี้ ทรัมป์ได้กลายมาเป็นผู้มีคะแนนนิยมนำหน้าผู้สมัครคนอื่น ในการเสนอชื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2567 ของพรรครีพับลิกัน ในขณะที่ไบเดนกล่าวถึงความพยายามของทรัมป์ ที่จะล้มล้างผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2563 ทั้งในทางตรงและทางอ้อม

“ประชาธิปไตยหมายถึงการปกครองของประชาชน ไม่ใช่การปกครองของกษัตริย์ ไม่ใช่การปกครองของเงิน ไม่ใช่การปกครองของผู้มีอำนาจ” ไบเดนระบุกับผู้ฟังในศูนย์ศิลปะเทมพี “ไม่ว่าพรรคใดก็ตาม นั่นหมายถึงการเคารพการเลือกตั้งที่เสรีและยุติธรรม ยอมรับผลแพ้ชนะ”

000_33WW7C8.jpg

ทรัมป์กล่าวยืนยันมาโดยตลอดแม้ไม่มีหลักฐานว่า ชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อปี 2563 ถูก “ขโมย” ไปจากเขา เนื่องจากการฉ้อโกงผู้มีสิทธิเลือกตั้ง อย่างไรก็ดี ในเวลาปัจจุบันนี้ ทรัมป์กำลังเผชิญหน้ากับการฟ้องร้องทางอาญา 4 กระทง โดย 2 คดีในนั้นเกี่ยวข้องกับความพยายามของทรัมป์เอง ที่จะพลิกผลความพ่ายแพ้ของเขาต่อไบเดนในปี 2563 ทั้งนี้ ทรัมป์ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาในการกระทำผิดในทั้ง 4 คดี

ไบเดนยังกล่าวพาดพิงถึงความรุนแรงทางการเมืองที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่เห็นได้ชัดจากการโจมตีอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2564 โดยในระหว่างการโจมตีครั้งนั้น ผู้สนับสนุนทรัมป์หลายพันคนได้มารวมตัวกันที่อาคารรัฐสภา และบุกโจมตีเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมาย ตามมาด้วยการบุกเข้าไปในอาคารรัฐสภา เพื่อพยายามหยุดการรับรองผลการเลือกตั้งปี 2563 ทั้งนี้ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีผู้เข้าร่วมการก่อจลาจลประมาณ 1,146 คนถูกจับกุม โดย 657 คนรับสารภาพตามข้อกล่าวหาของรัฐบาลกลาง

ทรัมป์ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าวางตัวนิ่งเฉย ในช่วงระหว่างการโจมตีเมื่อวันที่ 6 ม.ค. ด้วยการเพิกเฉยต่อเสียงเรียกร้องให้เขาเข้ามาแทรกแซงต่อเหตุจลาจล โดยหลังจากเวลาของการก่อจลาจลที่ผ่านไปหลายชั่วโมง ทรัมป์ได้ปล่อยวิดีโอบนทวิตเตอร์ เรียกร้องให้ผู้ก่อการจลาจลออกจากอาคารรัฐสภา แม้ว่าเขาจะกล่าวย้ำข้อกล่าวหาอันเป็นเท็จถึงฉ้อโกงการเลือกตั้งก็ตาม "กลับบ้าน พวกเรารักคุณ คุณพิเศษมาก” ทรัมป์บอกกับผู้ก่อการจลาจลในวิดีโอ "ผมรู้ว่าคุณรู้สึกอย่างไร"

ไบเดนมุ่งเป้าวิจารณ์ไปที่คำพูดดังกล่าวของทรัมป์ ในคำปราศรัยเมื่อวันพฤหัสบดี “ประชาธิปไตยหมายถึงการปฏิเสธและไม่ยอมรับความรุนแรงทางการเมือง ไม่ว่าพรรคใดก็ตาม ความรุนแรงดังกล่าวไม่เคย ไม่เคย และไม่เคยเป็นที่ยอมรับในอเมริกา มันไม่เป็นไปตามประชาธิปไตย และจะต้องไม่มีวันทำให้เป็นมาตรฐานในการพัฒนาอำนาจทางการเมือง” ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าว ทั้งนี้ ไบเดนยังกล่าวหาทรัมป์และพันธมิตรของเขาว่าเป็นผู้นำด้วย “การแก้แค้นและความพยาบาท” ที่พยายามขยายขอบเขตของรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ ไปสู่เป้าหมายทางการเมืองเพิ่มเติม

ไบเดนยังกล่าวด้วยว่า “พวกหัวรุนแรง” ในพรรครีพับลิกันกำลัง “ผลักดันความคิดที่อดีตประธานาธิบดีผู้พ่ายแพ้แสดงออกมาเมื่อเขาดำรงตำแหน่ง” ไบเดนกล่าวต่อไปว่า แนวคิดดังกล่าวคือประธานาธิบดี “อยู่เหนือกฎหมาย ไม่มีการจำกัดอำนาจ” พร้อมย้ำว่า “ทรัมป์กล่าวว่ารัฐธรรมนูญให้สิทธิเขา ในการทำทุกสิ่งที่เขาต้องการ ในฐานะประธานาธิบดี… ผมไม่เคยได้ยินประธานาธิบดีพูดแบบนั้นแบบล้อเล่นเลย”

ในขณะที่พรรครีพับลิกันกำลังปรับเปลี่บนอุดมการณ์ของตัวเองให้มีความเป็นขวายิ่งขึ้น ไบเดนได้กล่าวในกลางที่ประชุมทางการเมือง ซึ่งแสดงถึงมิตรภาพข้ามพรรคของเขาจากพรรคเดโมแครต กับแมคเคนผู้ล่วงลับจากพรรครีพับลิกันและเป็นทหารผ่านศึกในสงครามเวียดนาม “เราเป็นเหมือนพี่น้องสองคน เราคงเถียงกันแทบตาย” ไบเดนกล่าวถึงมิตรภาพและความแตกต่างของเขากับแมคเคนในอดีต “ผมหมายถึงเราทะเลาะกันจริงๆ แล้วเราจะไปกินข้าวเที่ยงด้วยกัน”

ทั้งนี้ มลรัฐแอริโซนา ซึ่งเคยเป็นฐานที่มั่นของพรรครีพับลิกัน ได้กลายเป็นรัฐสวิงสเตทที่มีความสำคัญอย่างมากขึ้นเรื่อยๆ ต่อการเลือกตั้งสหรัฐฯ โดยในปี 2559 ทรัมป์ชนะการเลือกตคั้งในมลรัฐแอริโซนา ก่อนที่ในปี 2563 ไบเดนสามารถคว้าชัยชนะและเปลี่ยนมลรัฐแอริโซนากลายให้เป็นรัฐสีน้ำเงินเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ทศวรรษ 1990


ที่มา:

https://www.aljazeera.com/news/2023/9/28/trump-and-maga-republican-extremists-threaten-us-democracy-biden-says?fbclid=IwAR1kRLBqfBPMdhQ53jAmrgbOS47b7J9QQp7pUXYLvD-M4O8IdKza_jVK_zs