ไม่พบผลการค้นหา
“ถ้าไม่มีบัตรทอง เราคงไม่ได้อยู่ตรงนี้” อดีตคนไข้ถึงกับหลั่งน้ำตา เมื่อได้พบกับ 'หมอเลี้ยบ' ผู้ผลักดันโครงการ ‘30 บาทรักษาทุกโรค’ ตัวจริง ‘พรรคเพื่อไทย’ เดินหน้าสานต่อภารกิจด้วยนโยบาย ‘50 เขต 50 โรงพยาบาล’ ดูแลประชาชนทั่วถึงทุกพื้นที่

11 พฤษภาคม 2565 พรรคเพื่อไทยเผยแพร่คลิปวิดีโอ ‘50 เขต 50 โรงพยาบาล ก้าวต่อไปของ 30 บาทรักษาทุกโรค’ ( https://youtu.be/KAW_5kqoeFs ) ที่ชวนผู้ใช้บัตรทอง 3 คนมาถ่ายทอดประสบการณ์การใช้สิทธิ ‘30 บาทรักษาทุกโรค’ ที่ช่วยชีวิตพวกเขาและครอบครัวเอาไว้ โดยทีมงานทำซึ้ง แอบชวน ‘หมอเลี้ยบ’ หรือ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี หนึ่งในคนสำคัญผู้ผลักดันโครงการนี้จนสำเร็จ มาเซอร์ไพรส์กลางกองถ่าย แต่ ‘หมอเลี้ยบ’ โดนเซอร์ไพรส์กลับ ทำเอาน้ำตาซึมไปตามๆ กัน

แขกรับเชิญคนแรกคือ สุธี ณัฏฐวณิช ผู้มาบอกเล่าเรื่องราวเมื่อ 15 ปีที่แล้ว ตอนที่ภรรยาตั้งครรภ์ลูกชายฝาแฝดโดยมีภาวะรกเกาะต่ำ ซึ่งเป็นเคสที่พบได้น้อย อีกทั้งมีความเสี่ยงที่ระหว่างคลอดอาจเสียชีวิตทั้งแม่และลูก แต่หลังจากเฝ้ารอหน้าห้องคลอดตั้งแต่เช้าจรดค่ำ ครอบครัวณัฏฐวณิชก็ได้ต้อนรับสมาชิกใหม่กันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา โดยภรรยาของคุณสุธีนั้นปลอดภัยดีแม้จะเสียเลือดปริมาณมาก 

IMG_2640.jpg

“คุณหมอบอกผมว่า เคสภรรยาของคุณ ที่คลอดโรงพยาบาลเอกชนไม่ได้ เพราะว่ารอดก็เป็นล้าน ไม่รอดก็เป็นล้าน ผมก็มารู้ตอนหลังว่า บัตร 30 บาทช่วยเราหลายอย่างเลยนะ” สุธีเล่า

แขกรับเชิญคนที่สอง ชมัยพร แต่งเกลี้ยง เชฟอาหารเพื่อสุขภาพมาเล่าย้อนความให้ฟังถึงการผ่าตัดต่อมไทรอยด์เมื่อ 10 ปีที่แล้ว โดยหลังผ่าตัดเธอต้องใส่สายให้อาหารเกือบ 11 เดือนเพราะกลืนไม่ได้ และกว่าจะกลับมาเปล่งเสียงได้อีกครั้งก็เป็นระยะเวลาเกือบ 1 ปี และทุกวันนี้ก็ยังคงรับการรักษาอย่างต่อเนื่อง โดยเธอนิยามโมเมนต์ที่กลับมาพูดได้อีกครั้งว่าเหมือนได้ “ชีวิตใหม่”

IMG_2638.jpg

และแขกรับเชิญคนสุดท้าย อภิรดี โคตรพรหม ผู้ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า มาแชร์ประสบการณ์ที่เคยทำร้ายตัวเองและมีความคิดอยากจบชีวิต ตอนนั้นมีหลายคนแนะนำให้ไปโรงพยาบาลหลายแห่งแต่ค่ารักษาพยาบาลสูงเกินกว่าที่เธอจะจ่ายไหว จนกระทั่งมีเพื่อนคนหนึ่งแนะนำว่าให้ลองไปใช้สิทธิบัตรทองดู 

“ถ้าไม่มีโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค เราคงไม่ได้อยู่ตรงนี้ เหมือนเจอน้ำในทะเลทราย ขอบคุณมากจริงๆ ที่มีโครงการนี้ เพราะไม่งั้นชีวิตเราไปต่อไม่ได้เลย” อภิรดีกล่าว 

ด้าน นพ.สุรพงษ์​ สืบวงศ์ลี กล่าวด้วยความตื้นตันใจว่า “ผมฟังประสบการณ์ที่แบ่งปันมาก็ดีใจ ทำให้รู้สึกว่าเมื่อ 20 ปีที่แล้วเราได้ทำอะไรที่ดีให้กับเพื่อนมนุษย์ในสังคมเดียวกัน เรารู้ว่ามีคนจำนวนไม่น้อยที่เจ็บป่วยด้วยโรคที่รักษายาก รักษานาน แล้วบางครั้งก็ไม่มีเงิน บางครอบครัวก็ล้มละลายจากการเจ็บป่วย ตอนที่คุณหมอสงวนคิดขึ้นมา และท่านอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตรศึกษามา มันเป็นความฝันที่เราอยากทำให้สำเร็จ เราหวังจะคืนศักดิ์ศรีให้กับทุกคน ไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลังจากการเจ็บป่วย” 

แขกรับเชิญทั้งสามคนนั้นซาบซึ้งใจอย่างมากเมื่อได้เจอกับ นพ.สุรพงษ์ โดยชมัยพรกล่าวว่า “ขอบคุณที่ทำให้กลับมาพูดได้อีกครั้ง” ส่วนอภิรดีสะท้อนความคิดเห็นต่อโครงการ ‘30 บาทรักษาทุกโรค’ ว่า “มันเป็นโครงการที่ดีมาก ทุกคนสามารถไปโรงพยาบาลได้ โดยไร้ความกังวลเรื่องค่ารักษาพยาบาลในขณะที่เขาไม่มีจ่ายจริงๆ”

ด้านคุณสุธีนั้นแม้ตื้นตันเกินกว่าจะเอ่ยคำใด แต่ได้เซอร์ไพรส์ นพ.สุรพงษ์ กลับด้วยการพาลูกชายฝาแฝดทั้งสองมาสวัสดี “ยินดีนะครับที่สุขภาพแข็งแรงกันทั้งสองคน” นพ.สุรพงษ์กล่าวท่ามกลางความซาบซึ้งยินดีของทุกคนในกองถ่าย

ทั้งนี้ ‘30 บาทรักษาทุกโรค’ หรือ ‘โครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า’ นั้นมีที่มาจากแนวคิดของ นพ. สงวน นิตยารัมภ์พงศ์ และดำเนินการทั่วประเทศเมื่อ พ.ศ. 2545 ด้วยการผลักดันจากอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร และ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี 

ในแง่ความสำเร็จนั้นมีงานวิจัยระบุว่า โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ทำให้อายุขัยโดยเฉลี่ยของคนไทยค่อยๆ เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จากเดิม 71 ปีใน พ.ศ. 2545 เป็น 74 ปีใน พ.ศ. 2555 ขณะเดียวกันก็ทำให้อัตราการตายของเด็กและทารกลดลง 13% – 30% เมื่อเปรียบเทียบระยะเวลา 1 ปีระหว่างก่อนและหลังการเริ่มโครงการ

สำหรับนโยบาย ‘50 เขต 50 โรงพยาบาล’ นั้นจะเป็นการต่อยอดจาก ‘30 บาทรักษาทุกโรค’ และเป็นการแก้ปัญหาเตียงไม่พอ รอนาน โดยพรรคเพื่อไทยเสนอให้สภา กทม. รับงบประมาณ 15,000 ล้านบาทต่อปีจากกองทุนประกันสุขภาพมาบริหารจัดการเพื่อดูแลสุขภาพของคนกรุงเทพฯ โดยสามารถใช้เงินก้อนนี้สร้างโรงพยาบาลชุมชนสังกัด กทม. ขนาด 120 เตียงอย่างน้อยเขตละ 1 แห่ง

‘30 บาทรักษาทุกโรค’ พรรคเพื่อไทยยังทำมาแล้ว ‘50 เขต 50 โรงพยาบาล’ เป็นจริงได้ เพียงเลือกเพื่อไทยเข้าไปเป็น ส.ก. เกินครึ่งสภา กทม. 

22 พฤษภาคมนี้ เลือกเพื่อไทย เลือกอนาคตที่มั่งคั่งให้คนกรุงเทพฯ