ทางการมาเลเซียเปิดเผยตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ล่าสุด พบผู้ติดเชื้อแล้ว 900 ราย ซึ่งเป็นผู้ติดเชื้อจากพิธีในมัสยิดจาเม็กเมื่อวันที่ 28 ก.พ.- 1 มี.ค.แล้ว 576 ราย
ที่ผ่านมาทางการมาเลเซียได้กักตัวและตรวจหาเชื้อกับผู้เข้าร่วมกิจกรรมในมัสยิดดังกล่าวแล้วประมาณ 10,000 ราย ขณะที่อีก 4,000 รายกำลังติดตามตัว
ทั้งนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 จากมัสยิดดังกล่าว ส่งผลให้มาเลเซียเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเมื่อต้นสัปดาห์ทางรัฐบาลมาเลเซียได้มีคำสั่งปิดประเทศ ห้ามประชาชนเดินทางเข้า-ออกจากมาเลเซียเป็นระยะเวลา 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 18 มี.ค.- 31 มี.ค. เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไปยังพื้นที่อื่นๆ
ขณะที่ประเทศอินโดนีเซีย มีรายงานพบผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 มากที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดย 19 มี.ค. อินโดนีเซียพบผู้ติดเชื้อแล้ว 309 ราย และมีผู้เสียชีวิต 25 ราย
ทั้งนี้อัตราการเสียชีวิตของประเทศอินโดนีเซียยังมากที่สุดในโลกอีกด้วย โดยมีอัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ 8 เปอร์เซ็นต์มากกว่าในอิตาลีที่อยู่ที่ 6 เปอร์เซ็นต์ ทางการอินโดนีเซียระบุว่า ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 45- 65 ปี และมีปัญหาทางด้านสุขภาพเรื้อรัง
ทางด้านประเทศฟิลิปปินส์ ประกาศระงับวีซ่านักท่องเที่ยวทั่วโลก รวมไปถึงห้ามชาวต่างชาติทุกชาติเดินทางเข้าประเทศ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ทางการฟิลิปปินส์มีคำสั่งปิดกรุงมะนิลา เมืองหลวง หลังจากมีรายงานผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นายเทดดี บอย ล็อคซิน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของฟิลิปปินส์ กล่าวว่า ได้ลงนามในคำสั่งระงับการออกวีซ่าเข้าฟิลิปปินส์ให้กับพลเมืองชาติอื่นทั้งหมด ซึ่งเป็นการห้ามชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศ โดยไม่มีข้อยกเว้น
ทั้งนี้รัฐมนตรีต่างประเทศของฟิลิปปินส์ยังกล่าวว่า หากชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในฟิลิปปินส์จะเดินทางออกจาประเทศย่อมสามารถทำได้
ปัจจุบันฟิลิปปินส์พบผู้ติดเชื้อ 217 ราย และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 17 ราย
ที่มา CNA / The star / Jakartapost
ข่าวที่เกี่ยวข้อง