ต่างประเทศ
อดีตกำลังพิเศษอัฟกันพันธมิตรสหรัฐฯ ถูกรัสเซียเกณฑ์ เข้าร่วมรบในสงครามยูเครน
เหล่านายพลชาวอัฟกานิสถานระบุว่า รัสเซียต้องการดึงดูดอดีตหน่วยจู่โจมของอัฟกานิสถานจำนวนหลายพันคนเข้าสู่ “กองทหารต่างชาติ” ด้วยข้อเสนอค่าจ้างรายเดือนเดือนละ 1,500 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 57,000 บาท) และสัญญาว่าจะมีที่หลบภัยสำหรับตัวเองและครอบครัว เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกเนรเทศกลับไปยังอัฟกานิสถาน ซึ่งตกอยู่ภายใต้การปกครองของศัตรูของพวกตนอย่างตาลีบัน
“พวกเขาไม่ต้องการออกรบ แต่พวกเขาไม่มีทางเลือก” อับดุล ราฟ อาร์กันดิวาล อดีตนายพลอัฟกานิสถานกล่าว พร้อมระบุเสริมว่าหน่วยจู่โจมหลายสิบคนหรือมากกว่านั้นในอิหร่าน ที่เขาติดต่อกันผ่านทางข้อความระบุว่า พวกตนกลัวการถูกเนรเทศมากที่สุด “พวกเขาถามผมว่า 'ให้ทางออกกับผมไหม เราควรทำอย่างไร ถ้าเรากลับไปที่อัฟกานิสถาน กลุ่มตาลิบันจะฆ่าเรา’”
อาร์กันดิวาลกล่าวว่าการเกณฑ์ทหารถูกจัดขึ้นโดย Wagner Group กองกำลังทหารรับจ้างของรัสเซีย โดยนายพลอีกคนหนึ่งอย่าง ฮิบาตุลเลาะห์ อาลีไซ ผู้บัญชาการกองทัพอัฟกานิสถานที่ประจำการเป็นคนสุดท้าย ก่อนที่กลุ่มตาลีบันจะเข้ายึดครองกรุงคาบูลกล่าวว่า ความพยายามดังกล่าวยังได้รับความช่วยเหลือจากอดีตผู้บัญชาการกองกำลังพิเศษอัฟกานิสถานที่อาศัยอยู่ในรัสเซีย และสามารถพูดภาษารัสเซียได้
การเกณฑ์ทหารอดีตกองกำลังอัฟกานิสถานของรัสเซีย เกิดขึ้นภายหลังจากคำเตือนเมื่อหลายเดือนก่อนจากทางการสหรัฐฯ ที่เคยต่อสู้มากันกับกองกำลังพิเศษของอัฟกานิสถานว่า กลุ่มตาลีบันมีเจตนาที่จะสังหารพวกตน และพวกตนอาจเข้าร่วมกับศัตรูของสหรัฐฯ อย่างรัสเซียเพื่อเอาชีวิตรอด หรือไม่ก็เพราะโกรธเคืองกับอดีตพันธมิตรอย่างสหรัฐฯ ที่ถอนกำลังออกไปจากประเทศของพวกตน
“เราไม่ได้พาบุคคลเหล่านี้ออกไปตามที่เราสัญญาไว้ และตอนนี้พวกเขากลับมาเอาคืนแล้ว” ไมเคิล มัลรอย เจ้าหน้าที่ซีไอเอเกษียณอายุราชการ ซึ่งเคยประจำการอยู่ในอัฟกานิสถานกล่าว ก่อนกล่าวเสริมว่าหน่วยจู่โจมของอัฟกานิสถานเป็นนักรบที่มีทักษะสูงและโหดร้าย “ผมไม่ต้องการที่จะเห็นพวกเขาในสนามรบใดๆ พูดกันแบบตรงไปตรงมา โดยเฉพาะในสมรภูมิที่ยูเครนอย่างแน่นอน”
รายละเอียดของความพยายามดังกล่าวของรัสเซีย ถูกเปิดเผยครั้งแรกโดยนิตยสาร Foreign Policy เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยนิตยสารอ้างอิงจากแหล่งข้อมูลทางการทหารและความมั่นคงของอัฟกานิสถานที่ไม่เปิดเผยชื่อว่า การรับสมัครทหารต่างชาติดังกล่าวมีขึ้น ในขณะที่กองกำลังของรัสเซียถอนกำลังออกจากพื้นที่ ภายหลังจากการรุกคืบของกองทัพยูเครน ในขณะที่ วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย กำลังพยายามระดมกำลังพล ซึ่งทำให้ชายชาวรัสเซียเกือบ 200,000 คน ต้องหนีทหารออกจากประเทศ
กระทรวงกลาโหมรัสเซียไม่ออกมาให้ความเห็นใดๆ ต่อรายงานดังกล่าว ในขณะที่ เยฟเกนี ปรีโกซิน โฆษกกระทรวงกลาโหมรัสเซีย ซึ่งเพิ่งยอมรับว่าเป็นผู้ก่อตั้ง Wagner Group ได้ปฏิเสธแนวคิดเรื่องความพยายามในการเกณฑ์อดีตทหารของอัฟกานิสถานว่าเป็น “เรื่องไร้สาระ” ในขณะที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ไม่ได้ออกมาให้ความเห็นใดๆ เพิ่มเติม แต่รายงานการเกณฑ์ทหารจากชาติอื่นๆ ของรัสเซียไม่ได้สร้างความประหลาดใจให้กับทางสหรัฐฯ มากนัก
ยังคงไม่ชัดเจนว่า มีสมาชิกกองกำลังพิเศษอัฟกานิสถานจำนวนมากน้อยเพียงใด ที่หลบหนีไปยังอิหร่านและได้เข้าร่วมรบกับรัสเซียในยูเครน แต่มีหน่วยจู่โจมรายหนึ่งระบุกับทาง Associated Press ว่า เขากำลังสื่อสารผ่านบริการแชทของ WhatsApp กับหน่วยจู่โจมอัฟกานิสถานอีกประมาณ 400 คน ที่กำลังพิจารณาข้อเสนอดังกล่าวจากทางฝั่งรัสเซียอยู่ในตอนนี้
หน่วยจู่โจมรายดังกล่าวระบุว่า ข้อเสนอจากทางรัสเซียต่อเขามีทั้งการออกวีซ่ารัสเซียสำหรับตัวเขาเอง เช่นเดียวกับลูก 3 คน และภรรยาที่ยังอาศัยอยู่ในอัฟกานิสถาน หน่วยจู่โจมคนอื่นๆ ยังได้รับการเสนอให้ได้รับการต่ออายุวีซ่าในอิหร่าน หน่วยจู่โจมรายนี้บอกว่าเขากำลังรอดูว่าคนอื่นๆ ในกลุ่ม WhatsApp จะตัดสินใจอย่างไร แต่เขาคิดว่าหลายคนน่าจะตอบรับข้อเนอของทางรัสเซีย
ทหารผ่านศึกสหรัฐฯ ที่เคยสู้รบกับกองกำลังพิเศษอัฟกานิสถานได้อธิบายให้ Associated Press ฟังถึงหลายสิบกรณีที่ไม่มีการยืนยันข้อเท็จจริงได้ว่า ตาลีบันได้กลับไปยังบ้านหลังต่างๆ เพื่อค้นหาหน่วยจู่โจมของกองกำลังอัฟกานิสถานที่ยังคงอาศัยอยู่ในประเทศ ก่อนที่ตาลีบันจะจับพวกเขามาทรมานหรือสังหารยกครัว
ฮิวแมนไรท์วอทช์กล่าวว่า มีอดีตทหารอัฟกานิสถาน เจ้าหน้าที่ข่าวกรอง และตำรวจกว่า 100 คน ถูกสังหารหรือถูกบังคับให้ “สูญหาย” ในช่วงเวลาเพียงแค่ 3 เดือน ภายหลังจากที่ตาลีบันยึดครองอัฟกานิสถานสำเร็จ แม้ตาลีบันจะมีคำสัญญาว่าพวกตนจะมอบการนิรโทษกรรม ให้แก่อดีตข้าราชการทหารและตำรวจของอัฟกานิสถานก็ตาม
น้องชายของหน่วยจู่โจมกองทัพอัฟกานิสถานในอิหร่าน ที่ยอมรับข้อเสนอของรัสเซียกล่าวว่า ภัยคุกคามของตาลีบันทำให้ยากที่พี่ชายของตนจะปฏิเสธ เขากล่าวว่าพี่ชายของเขาต้องซ่อนตัวเป็นเวลา 3 เดือน หลังจากการล่มสลายของกรุงคาบูลด้วยการย้ายไปมาตามบ้านญาติพี่น้อง ในขณะที่กลุ่มตาลีบันเข้าตรวจค้นบ้านของเขา “พี่ชายของผมไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมรับข้อเสนอ” มูราด น้องชายของหน่วยจู่โจมอัฟกานิสถานกล่าว “นี่ไม่ใช่การตัดสินใจที่ง่ายสำหรับเขา” มูราดย้ำ
ยังมีอดีตทหารคนหนึ่งส่งข้อความถึงอาร์กันดิวาลว่า “คุณได้รับการฝึกทหารในรัสเซียเป็นเวลา 2 เดือนแล้วค่อยถูกส่งไปไปที่แนวหน้ารบ”
ที่มา:
