ชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงการคลังเปิดเผยผู้ผ่านสิทธิ์ได้รับ บัตรคนจน รอบใหม่ปี 2566 เมื่อวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมาว่า บัตรคนจนคือหลักฐานของความล้มเหลวในการบริหารจัดการอย่างชัดเจน โดยมีข้อสังเกตดังนี้
1. ผู้ได้รับบัตรคนจนปีนี้ รวมแล้วอยู่ที่ 14.59 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 1.39 ล้านคน โดยปี 2565 มีผู้ถือบัตร 13.2 ล้านคน ทั้งที่ปีนี้ปรับหลักเกณฑ์ให้รัดกุมมากขึ้น สะท้อนให้เห็นว่าแท้จริงแล้ว ผู้เปราะบางในประเทศมีจำนวนเพิ่มขึ้นมหาศาล
2. การขึ้นทะเบียนบัตรคนจนรอบนี้ ต้องมีการอนุมัติงบกลางมาเพิ่มอีก 9,140 ล้านบาท รวมแล้วรัฐบาลใช้งบบัตรคนจนปีนี้ สูงถึง 6.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นการใช้งบบัตรคนจนที่เพิ่มขึ้นสูงที่สุดในรอบ 4ปี สะท้อนว่าบัตรคนจน เป็นเพียงบัตรประวิงเวลาเยียวยาความจน เพราะผลลัพธ์คือมีแต่คนจนเพิ่มขึ้น
3. รัฐบาลจะจ่ายเงินบัตรคนจนรอบใหม่ 1 เมษายน 2566 สอดคล้องกับช่วงหาเสียงเลือกตั้งใหญ่ ส่อเจตนาแจกเงินโค้งสุดท้ายให้กว้างขวาง เพื่อหวังผลประโยชน์ทางการเมืองหรือไม่
ชนินทร์ กล่าวว่า นอกเหนือจากการอนุมัติงบกลางเพื่อไปแจกในโครงการประชานิยมรอบนี้แล้ว คณะรัฐมนตรียังได้อนุมัติโครงการทิ้งทวนอีกมากมายก่อนจะยุบสภาในเร็ววันนี้ ทั้งที่สามารถทำได้เร็วกว่านี้ และทันการณ์กับความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนมากกว่านี้ เช่น เงินประกันรายได้สวนยางเฟสที่ 4, โครงการโคบาลชายแดนใต้ และอนุมัติงบกลางเพื่อใช้กับโครงการที่รับผิดชอบโดยกลุ่มการเมืองในสังกัด ซึ่งต้องตรวจสอบให้ชัดว่าเป็นการอนุมัติ เพื่อหวังผลคะแนนเลือกตั้งให้กับพรรคพวกตัวเอง หรือพรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบันหรือไม่
“พอกันทีกับวิสัยทัศน์แก้จนด้วยการกู้มาแจก ไม่มีการสร้างงาน สร้างรายได้อย่างยั่งยืน รัฐบาลพรรคเพื่อไทย เราจะมุ่งสร้างเศรษฐกิจ ส่งเสริมการประกอบอาชีพ ให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างยั่งยืน คืนเกียรติคืนศักดิ์ศรีให้พี่น้องประชาชน” ชนินทร์กล่าว