ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึง การประกาศกวาดล้างยาเสพติด จับกุมผู้ค้า-เข้มงวดเส้นทางลำเลียง ของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2565 ตามนโยบายแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาตินั้น ดูเป็นความพยายามที่มาล่าช้าสวนทางกับความจริงที่เกิดขึ้นในสังคมไทยในขณะนี้ ข่าวรายวันที่เกิดขึ้นทั้งเด็ก เยาวชนมั่วสุมเสพยาในโรงเรียน ลูกทำร้าย ฆ่าบุพการีที่ไม่ให้เงินซื้อยาเสพติด ยาเสพติดจีนบุกตลาด ปรากฎการณ์เหล่านี้พบเห็นตามสื่อต่างๆได้ทุกวันในยุคนี้ อาจมาจากการอาศัยช่องโหว่ของกฎหมายโดยเจ้าหน้าที่รัฐที่เห็นแก่ประโยชน์ ทำให้การป้องกันและปราบปรามทำได้ไม่ดีพอ ได้แก่
1.กฎหมายยาเสพติดในปัจจุบัน การจับกุมผู้เสพยาเสพติดโดยพิจารณาจากพฤติการณ์ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจบางส่วนอาจใช้เป็นช่องทางในการทุจริต ขูดรีดรับสินบน เมื่อมีการจับกุมผู้กระทำผิดเพราะสามารถใช้ดุลพินิจในการลงโทษหรือเอาผิดกับผู้เสพและผู้จำหน่ายได้ เพื่อเปลี่ยนจากผู้ค้า เป็นผู้เสพ บางรายถูกปล่อยตัวไปอย่างง่ายดายใช่หรือไม่
2.เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทั้งทหาร ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจตระเวนชายแดน บกพร่องต่อหน้าที่ ปล่อยปละละเลยให้เกิดการขนถ่ายยาเสพติดผ่านทางชายแดนไทยได้โดยง่าย เกิดการแสวงหาผลประโยชน์จากเรื่องนี้ใช่หรือไม่ จนเกิดกรณีเลวร้ายที่สุดคือมีการขนส่งยาเสพติดจากจีนมาในไทยได้อย่างไร
ลิณธิภรณ์ กล่าวอีกว่า ปัญหาที่เกิดขึ้น พลเอกประวิตร ซึ่งก็เคยอยู่ในกระบวนการปฏิรูปตำรวจน่าจะรู้ดีและต้องเร่งแก้ไขอย่างจริงจัง แก้ปัญหาที่โครงสร้าง อย่ามองปัญหาเพียงผิวเผินเน้นสั่ง แต่ไร้การประเมินผล โดยมองข้ามแก่นของปัญหาที่แท้จริง จึงขอเสนอแนะทางออกดังนี้
1.เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องจริงจังกับการจับกุมผู้เสพและผู้ค้า ลงโทษขั้นเด็ดขาดกับเจ้าหน้าที่รัฐที่ใช้อำนาจในทางมิชอบ พร้อมสืบค้นหาต้นตอของการกระจายยาเสพติดในทุกระดับชั้น
2.คัดแยกผู้เสพติดออกมาบำบัดรักษาฟื้นฟูสมรรถภาพ เปลี่ยนค่ายทหารให้เกิดประโยชน์กับผู้เสพรายย่อย โดยอาจฟื้นฟู ‘โรงเรียนวิวัฒน์พลเมือง’ ที่กองทัพบกเคยตอบสนองต่อนโยบายในสมัย ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับมาใช้อีกครั้ง
3. จัดให้มีระบบการติดตามช่วยเหลือผู้ที่ผ่านการบำบัดฟื้นฟู สร้างการจ้างงานให้ครบวงจร โดยประสานความร่วมมือกับเอกชนรับผู้ที่บำบัดแล้วเข้าทำงาน โดยรัฐต้องให้สิทธิประโยชน์ด้านภาษีกับบริษัทเอกชนด้วย
“ฝากถึงพลเอกประยุทธ์และพลเอกประวิทย์ อย่าแก้ปัญหายาเสพติด คิดจะใช้เป็นผลงานการหาเสียงหรือไม่ เพราะ 8 ปีที่ผ่านมาเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความจริงจังในการปราบปราม ถ้าคิดแก้ปัญหายาเสพติดต้องคิดให้ครบวงจร ผู้เสพจะต้องได้รับการบำบัดฟื้นฟู คืนสู่อ้อมกอดของครอบครัว และผู้ค้ายาต้องหมดไปจากสังคมไทย” ลิณธิภรณ์ กล่าว