สรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงภาพรวมการสัมมนาพรรคเพื่อไทย ว่า สส. ส่วนใหญ่ต้องการอยากให้พรรคเพื่อไทยกลับมาเป็นอันดับ 1 เหมือนเดิม ส่วนหนทางจะเป็นอย่างไรนั้น ประชาชน สส. และรัฐบาล ยังมีระยะห่าง หัวหน้าพรรคเพื่อไทยจึงได้เน้นย้ำตั้งแต่วันรับตำแหน่งว่าเราจะต้องทำงานแบบแนวราบ ทำให้ช่องว่างระหว่างประชาชนที่สะท้อนปัญหามายัง สส. และ สส. สะท้อนต่อไปยังรัฐบาลให้น้อยลง พร้อมย้ำว่า พรรคเพื่อไทยมีความแข็งแกร่งเรื่องการลงพื้นที่ ที่ผู้สมัคร และ สส. ลงพื้นที่ และประชาชนตลอด โดยพรรคเพื่อไทยได้ทำคลินิกรัฐบาลในสัดส่วนของพรรคเพื่อไทยมาทุกครั้งเมือมีการประชุมพรรค เรื้องต่างๆ ได้รับการแก้ไขบางเรื่องก็อยู่ในขั้นตอน ส่วนมากจะติดในเรื่องงบประมาณ ซึ่งงบประมาณปี 2567 ยังไม่เข้าสภา แต่เมื่อทันทีที่เปิดสภา ประชุมนัดแรกจะพูดคุยกัน และตั้งกรรมาธิการวิสามัญงบประมาณประจำปี 2567 ต่อไป ยืนยัน หลังการสัมมนาพรรคในครั้งนี้จะทำให้พรรคกับรัฐบาลแน่นแฟ้นกว่าเดิม ซึ่งจากที่เห็นคนในพรรคเพื่อไทยมีหลายรุ่น มีระยะห่างค่อนข้างมาก มีทั้ง สส. หลายสมัย สส.สมัยแรก และทายาททางการเมือง ดังนั้น การสัมมนาจึงเป็นการละลายพฤติกรรม ทำให้รู้จักกันมากขึ้น 

ส่วนที่วานนี้ (6 ธ.ค.) ได้พูดถึง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนสุดท้ายนั้น สรวงศ์ กล่าวว่า เนื่องจากเรามีหัวหน้าพรรคเป็นผู้หญิง และมีหน้าที่ในการผลักดันแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ในการเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป แต่ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าจะเป็นใครที่จะผลักดันในการเลือกตั้งครั้งหน้า แต่เรามีหัวหน้าพรรคที่เป็นผู้หญิงในตอนนี้ ซึ่งหัวหน้าพรรคเราก็พร้อม 

ขณะที่หลายคนพยากรณ์ทางการเมืองว่าปีหน้าจะมีการปรับเปลี่ยนทางการเมือง นายกรัฐมนตรีหญิงคนต่อไปจะมาในปีหน้าเลยหรือไม่ สรวงศ์ ปฏิเสธว่า ไม่ถึงขนาดนั้น อย่างที่เคยบอกไปแล้วว่า เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ทำงานดี ทำงานเร็ว มีความตั้งใจทำงานอยู่แล้ว ซึ่ง แพทองธาร ในตอนนี้ อยากจะมุ่งเน้นทำงานกับพรรค ยังไม่ได้มุ่งเน้นการทำงานบริหาร อยากทำให้พรรคกลับมาแข็งแกร่ง เป็นเอกภาพเหมือนเดิม 

สรวงศ์ ยังยืนยันว่า ในการสัมมนาไม่มีเสียงสะท้อนจาก สส. ที่ขอให้นายกรัฐมนตรีรับสายเพื่อรับฟังปัญหาบ้าง แต่มองว่า เป็นเรื่องปกติในทุกรัฐบาล เพราะมีหน้าที่ที่รับผิดชอบมาก การจะติดต่อสื่อสารกันก็ยากมากขี้น แต่รัฐมนตรีหลายคนก็โทรกลับมา ยืนยัน สส. สามารถสะท้อนปัญหาโดยตรงกับนายกรัฐมนตรีได้ เพราะนายกรัฐมนตรีเป็นคนเน้นย้ำเรื่องนี้ว่า สส. มีโอกาสได้สะท้อนปัญหาของประชาชน จึงต้องลดระยะห่างระหว่าง สส. และรัฐบาล ทำให้มีความสนิทสนมกันมากขึ้น มั่นใจว่า รัฐบาลภายใต้การนำของนายเศรษฐา และพรรคเพื่อไทย ภายใต้แกนนำของ แพทองธาร สามารถเชื่อมโยงกันได้อย่างแนบชิด