อย่างไรก็ดี มีรายงานถึงรายละเอียดเพียงเล็กน้อย ถึงบทสนทนาระว่าง เซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมรัสเซีย และ ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ในขณะที่ทั้งสองประเทศยืนยันว่า 2 รัฐมนตรีกลาโหมมีการพูดคุยกันในประเด็นยูเครนด้วย
กระทรวงกลาโหมของรัสเซียระบุว่า “ประเด็นเฉพาะด้านความมั่นคงระหว่างประเทศ ซึ่งรวมถึงสถานการณ์ในยูเครนได้รับการหารือกันแล้ว” ในขณะที่กระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเฉพาะ นอกเหนือจากการกล่าวว่า ออสตินซึ่งเป็นฝ่ายเริ่มการสนทนา ได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการสื่อสารระหว่างกัน ท่ามกลางสงครามในยูเครน ณ ตอนนี้
“รัฐมนตรีออสตินเน้นย้ำถึงความสำคัญ ของการคงไว้ซึ่งสายการสื่อสารกัน ท่ามกลางสงครามในยูเครน” โฆษกกองทัพสหรัฐฯ ระบุ ในขณะที่สำนักข่าว Tass ของรัฐบาลรัสเซียอ้างอิงคำพูดของ คอนสแตนติน กาฟริลอฟ นักการทูตรัสเซียที่ประจำอยู่ในกรุงเวียนนา ซึ่งระบุกับทางสำนักข่าวว่า “ความเข้าใจผิดจะต้องได้รับการทำให้ชัดเจน เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น… สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นการติดต่อกันที่จำเป็น และมันจำเป็นต่ออเมริกันที่จะต้องเข้าหาก่อน”
กาฟริลอฟ ผู้เจรจาด้านความมั่นคงระดับอาวุโสของรัสเซีย มีกำหนดการที่จะเข้าชี้แจงถึงการใช้นิวเคลียร์เพื่อป้องปรามที่องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) ในเร็วๆ นี้
โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ระบุเมื่อวานนี้ว่า ทางกระทรวงได้เสนอโอกาสที่ดีที่สุดให้ทั้ง 2 ฝ่าย ในระหว่างการพูดคุยซึ่งกันและกัน โดยไม่ได้อธิบายในรายละเอียดใดๆ เพิ่มเติม ทั้งนี้ โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ไม่ได้ระบุว่า ทั้งรัสเซียและสหรัฐฯ มีการเจรจาใดๆ ระหว่างทั้งสองเพิ่มเติมหรือไม่
การต่อสายพูดคุยกันระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ และรัสเซียในครั้งนี้ นับเป็นการต่อสายคุยกันเป็นครั้งที่ 2 ตั้งแต่รัสเซียเข้ารุกรานยูเครนเมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา โดยในการพูดคุยกันครั้งแรกเมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ออสตินได้ร้องขอให้รัสเซียดำเนินการ “การหยุดยิงในทันที”
เมื่อช่วงเดือน พ.ค.นั้น รัสเซียได้ถูกกองทัพของยูเครนผลักดันออกนอกรอบกรุงเคียฟ แต่ยังคงยึดครองพื้นทีในภูมิภาคดอนบาสและคาร์คีฟได้อย่างแข็งขัน อีกทั้งการยึดที่มั่นในทางตอนใต้ของยูเครน จนกระทั่ง 6 เดือนต่อมา กองทัพของยูเครนสามารถผลักดันกองทัพรัสเซียในพื้นที่ดังกล่าวได้อย่างรุดหน้า จนกลายเป็นสัญญาณของความล่าถอยของรัสเซียในสมรภูมิยูเครน
ที่มา: