ในวันพุธ (21 มิ.ย.) โอลิวิเย เวรอง โฆษกรัฐบาลฝรั่งเศส ได้ให้ข้อมูลแก่ผู้สื่อข่าวว่า ทางการตัดสินใจที่จะยุบองค์กรอิสระที่มีชื่อว่า ซูแลฟมองเดอลาแตร์ (Soulèvement de la Terre) ซึ่งเป็นกลุ่มนักเรียกร้องด้านสิ่งแวดล้อม โดยการตัดสินใจครั้งนี้มาจากข้อเสนอของ เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส และมติดังกล่าวได้รับการเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมานี้ (20 มิ.ย.) รัฐบาลฝรั่งเศสได้ทำการควบคุมตัวคนผู้ชุมนุมทั้งหมด 14 คน ที่มีส่วนเชื่อมโยงกับองค์กร เพื่อสืบสวนสอบสวนเหตุการณ์ในการประท้วงต่อต้านผู้ผลิตปูนซีเมนต์ เมื่อเดือน ธ.ค. 2565
กระบวนการทลายกลุ่มนักเรียกร้องนี้ เริ่มขึ้นตั้งแต่เดือน มี.ค. หลังจากที่มีการชุมนุมประท้วงในภาคตะวันตกของฝรั่งเศสเพื่อต่อต้านโครงการแอ่งน้ำขนาดยักษ์ หรือ mega water basins เพื่อการเกษตรกรรม ซึ่งตามมาด้วยการเกิดการปะทะกันอย่างรุนแรงและมีการจุดไฟเผารถยนต์ในการชุมนุมครั้งนั้น ในขณะที่ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการยิงแก๊สน้ำตา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้มีผู้บาดเจ็บสาหัสทั้งฝ่ายเจ้าหน้าที่และฝ่ายผู้ชุมนุม
โดยองค์กรซูแลฟเดอลาแตร์อ้างว่า พวกเขามีสมาชิกอย่างเป็นทางการถึง 110,000 คน และได้มีการยืนยันว่าจะจัดการประท้วงต่อไปตลอดจนทั้งฤดูร้อนนี้ ทางองค์กรยังได้ออกมาตอบโต้การกระทำของรัฐบาลว่า พวกเขาจะยิ่งกระตุ้นให้มีคนมาเข้าร่วมกับการเคลื่อนไหวของพวกเขามากขึ้น ทั้งนี้ มีหลายเหตุการณ์ประท้วงครั้งสำคัญของกลุ่มที่เคยเกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้ เช่น การประท้วงต่อต้านโครงการทางรถไฟเชื่อมฝรั่งเศส-อิตาลี หรือประท้วงต่อต้านอุตสาหกรรมผลิตปูนซีเมนต์ เป็นต้น
เวรองยังกล่าวอีกว่า สิ่งที่ถูกตั้งคำถามในตอนนี้หาใช่เสรีภาพในการแสดงออก หรือแนวคิดของพวกเขา แต่คือความรุนแรงที่เกิดขึ้นเรื่อยๆ ในหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยการใช้ความรุนแรงนั้นขัดกับหลักหลักนิติธรรม
อย่างไรก็ตาม ยังมีเสียงต่อต้านจากหลายฝ่าย ทั้งองค์กรเพื่อสิทธิมนุษยชน นักการเมืองท้องถิ่น และนักการเมืองจากฝ่ายค้าน ที่ต่างประนามการกระทำเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาของรัฐบาลฝรั่งเศส พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลอย่าทำลายเสียงเรียกร้องเพื่อสิ่งแวดล้อม
ที่มา:
https://edition.cnn.com/2023/06/21/europe/french-government-ban-climate-group-intl/index.html