คณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้รับรองงบประมาณกว่า 250 ล้านเยน (ประมาณ 65 ล้านบาท) ในสัปดาห์ที่ผ่านมา สำหรับงานรัฐพิธีศพแด่อาเบะ ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 27 ก.ย.ที่จะถึงนี้ ณ กรุงโตเกียว ทั้งนี้ ตัวเลขงบประมาณการจัดงานอาจเพิ่มขึ้นได้อีกถึง 1,000 ล้านเยนตามการประมาณการของฝ่ายค้าน ส่งผลให้ความคิดเห็นสาธารณะในญี่ปุ่นยังคงแบ่งเป็นสองฝั่ง ระหว่างฝ่ายสนับสนุนและคัดค้านรัฐพิธีศพในครั้งนี้
โดยฝ่ายคัดค้านรัฐพิธีกว่า 4,000 คน ซึ่งรวมถึงสมาชิกรัฐสภาบางคนได้เข้าร่วมชุมนุมที่หน้ารัฐสภาในวันพุธที่ผ่านมา (31 ส.ค.) พร้อมให้เหตุผลว่า การจัดรัฐพิธีศพในครั้งนี้ละเมิดต่อกฎหมายต่างๆ รวมถึงรัฐธรรมนูญของญี่ปุ่น โดยผู้ชุมนุมคนหนึ่งกล่าวว่า “อย่างน้อยๆ ควรมีการหารือในรัฐสภาก่อนที่จะมีการใช้เงินของผู้เสียภาษีจำนวนมากเช่นนี้”
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีคิชิดะชี้ว่ารัฐพิธีศพนั้นชอบธรรมแล้ว เนื่องจากเป็นการสดุดีให้แก่ความเป็นผู้นำของอาเบะทั้งในระดับประเทศและเวทีโลก
“อาเบะถูกลอบสังหารในระหว่างการหาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของประชาธิปไตย การจัดรัฐพิธีศพเป็นการแสดงจุดยืนว่าญี่ปุ่นจะไม่ทนต่อการใช้ความรุนแรงในลักษณะนี้” คิชิดะกล่าว นอกจากนี้ เขายังประกาศว่าจะยืนกรานต่อที่ประชุมรัฐสภา ถึงความสำคัญของพิธีในการประชุมสภาที่จะเกิดขึ้น
ในขณะเดียวกัน คิชิดะยังได้ประกาศตัดความสัมพันธ์ที่มีอย่างใกล้ชิดและยาวนาน ระหว่างพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ของตนกับโบสถ์แห่งความสามัคคี ซึ่งเป็นโบสถ์ที่ เท็ตสึยะ ยามากามิ ผู้ก่อการลอบสังหารอดีตนายกรัฐมนตรีอาเบะ ได้ให้การต่อตำรวจว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้ตนตัดสินใจก่อคดีการฆาตกรรมอดีตนายกรัฐมนตรีเมื่อสองเดือนก่อน โดยยามากามิกล่าวว่าแม่ของเขาได้บริจาคเงินเป็นจำนวนมากให้โบสถ์แห่งนี้ ซึ่งมีความสัมพันธ์กับอดีตนายกรัฐมนตรีอาเบะ และพรรค LDP อย่างใกล้ชิด
ความสัมพันธ์ระหว่างพรรค LDP และโบสถ์ที่มีมาอย่างยาวนาน ปรากฏเด่นชัดในทศวรรษ 2530 เมื่อ โนบุซึเกะ คิชิ นักการเมืองจากพรรค LDP ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นในสมัยนั้น และเป็นตาของอดีตนายกรัฐมนตรีอาเบะ ได้ให้ความช่วยเหลือโบสถ์แห่งนี้ ที่มีต้นสาขาอยู่ในเกาหลีใต้ ในการก่อตั้งสาขาที่ญี่ปุ่น นอกจากนี้ เมื่อปีที่แล้ว ตัวอาเบะเองได้มีการส่งวิดีโอกล่าวชื่นชมผู้นำของกลุ่มลัทธิดังกล่าวเพื่อฉายในการประชุมของโบสถ์ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าอาจเป็นมูลเหตุหลัก ที่ทำให้ยามากามิเชื่อมโยงตัวอาเบะเข้ากับโบสถ์และก่อเหตุลอบสังหารในที่สุด
“นักการเมืองจำเป็นต้องพิจารณาความสัมพันธ์ของตน กับลัทธิที่มีความสัมพันธ์กับปัญหาสังคม” คิชิดะกล่าว หลังจากที่ตัวเขาและสมาชิกพรรค LDP ได้ตกลงกัน ที่จะตัดความสัมพันธ์กับโบสถ์แห่งความสามัคคีไปแล้ว
ที่มา: