เมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 20 ก.ค. 2565 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล จำนวน 11 คน วันที่สอง จักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย อภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ถึงการสร้างความล้มเหลวจนทำให้เศรษฐกิจการท่องเที่ยวพัง เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ไม่เคยใช้สมอง ไร้ภูมิปัญญาในการบริหารราชการแผ่นดิน ใช้สภาฯ เป็นสถานที่สัปประยุทธ์ ในจักรวาลหากไม่มีพล.อ.ประยุทธ์ อยู่ประชาชนจะกินดีแค่ไหน ทั้งนี้ ภาคการท่องเที่ยวเหมือนฟื้นตัวก็ยังร่อแร่
จักรพล อภิปรายว่า นายกฯใช้การใช้คำสั่งปิดประเทศไม่เป็น ปิดประเทศแบบไร้ยุทธศาสตร์ ซ้อมผู้ประกอบการและภาคแรงงาน ไม่รู้จักป้องกันป้องปราม ไม่มีนโยบายเชิงรุกในช่วงปิดประเทศ แต่ไทยต้องเตรียมความพร้อมในการเปิดประเทศ แต่สิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ทำไม่ได้ใช้วิธีสาธารณสุขอย่างถูกต้อง และไม่ทราบว่าจะประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินตามม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทำไม หรือประกาศเพื่อเหตุผลอื่นใด
จักรพลอภิปรายว่า ท่านจะทนฝืนอีกนานแค่ไหนทั้งที่ไร้ความรู้ความสามารถ และไร้น้ำยาในการบริหารประเทศ ปัญหานักท่องเที่ยวเป็นศูนย์ถึงไตรมาสสาม ทำให้ประเทศไทยขาดรายได้ 1.9 ล้านล้านบาท อีกทั้ง พ.ร.ก.เงินกู้ โควิด 2 ฉบับก็ใช้ไม่ได้ผล เปรียบเสมือนหมอจบออนไลน์ ทำให้ประเทศไทยมีอาการหนักเป็นอาการโคม่าทันที คนแบบนี้ยังควรบริหารประเทศอีกหรือไม่
"นายกฯ ขยันสร้างวิกฤต สร้างปัญหา ไม่ได้ขยันสร้างประโยชน์ให้ประเทศไทย ครั้งที่แล้วตนให้ฉายาเป็นพระบิดาการเสียค่าโง่ของประเทศไทย ที่เปิดประเทศช้า การฉีดวัคซีนไม่ครบ 70%ของประชากร ทำให้เสียมูลค่ากว่า 4 แสนล้านบาท ส่วนการค่าเหยียบแผ่นดินเป็นอุปสรรคของนักท่องเที่ยว" จักรพล ระบุ
จักรพลกล่าวว่า ความสามารถ พล.อ.อประยุทธ์เป็นศูนย์ เป็นผู้นำไร้ความสามารถที่สุดตั้งแต่ประเทศไทยมีนาน อย่างห้างกาดสวนแก้ว จ.เชียงใหม่ต้องปิดตัวไปเมื่อ 1 ก.ค. 2565 ก็ต้องปิดตัวเพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว ห้างพันธุ์ทิพย์พลาซ่า สาขาประตูน้ำ เงียบเหงาทั้งห้าง
จักรพลลระบุว่า 5 บาดแผลที่ซ้ำเติมเศรษฐกิจไทยว่า บาดแผลที่ 1 สร้างตัวเลขผูู้ว่างงานได้ 1.7 แสนคน ว่างงานในระบบพุ่ง 3.78 ล้านคน และรัฐบาลถูกซ้ำด้วยเงินเฟ้อ ทำให้คนไทยต้องเผชิญกับปรับราคาของสินค้าอุปโภคและบริโภค มีวิกฤตแพงทั้งแผ่นดิน ทำให้ทองขึ้น หมููแพง ค่าแรงไม่เคยขึ้นตามต้นทุนดังกล่าว แต่รัฐบาลเพิกเฉย
บาดแผลที่ 2 ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลง เหมือนดาบคมฟันร่างเราซ้ำสอง ทั้งที่แผลเก่ายังไม่ได้รับเยียวยา บาดแผลที่ 3 ดัชนีความสุขคนไทยลดลง ผู้ที่จะขอคืนความสุขให้ประชาชนก็ยัดเยียดความทุกข์ให้ทุกเช้าค่ำ บาดแผลที่ 4 นักท่องเที่ยวหายไป 32.5 ล้านคน การบริหารอืดอาดเชื่องช้าทำให้เหตุการณ์ล่วงล้ำมาถึงปัจจุบัน และบาดแผลที่ 5 รายได้ภาคการท่องเที่ยวที่เคยเป็นฮีโร่แต่ปีกหัก รายได้ภาคการท่องเที่ยวในปี 2564 หายไป 1.64 ล้านล้านบาท รัฐออกมาตรการช่วยเหลือล่าช้า กระจายไม่ทั่วถึง เงื่อนไขเยอะกดหัวประชาชนมาตลอด 3 ปี ภาคการท่องเที่ยว ตนยังหวังจะฟื้นมาในปลายปีนี้หรือไตรมาสแรกของปีหน้า แต่คงยาก หากผู้นำคนนี้ยังนั่งอยู่
"นายกฯไทยนั้นไม่มีหัวใจ และวินัยทางการคลังแม้แต่น้อย ความล้มเหลวในโครงการเราเที่ยวด้วยกัน แต่มีจุดด้อย คือ มีช่องโหว่เกิดทุจริตมีผู้ร้องมีกลโกงของผู้ประกอบการแต่ไม่มีการพักจริง บางโรงแรมไม่ได้เปิดบริการจริงแต่ลงทะเบียนใช้สิทธิ เงื่อนไขร่วมโครงการซับซ้อน การใช้แอปพลิเคชันเป๋าตัง ถุงเงินไม่รอบคอบ จำกัดธนาคารเดียว โครงการนี้ไม่ใช่เที่ยวด้วยกัน แต่เป็นโครงการพังด้วยกัน"
การบริหารไร้ประสิทธิภาพไร้จริยธรรมของพล.อ.ประยุทธ์ ทำให้ตนมีฉายาใหม่มอบให้พล.อ.ประยุทธ์ว่ารัฐบาลสัตว์เซลล์เดียว ที่ใช้ชื้อนี้เพราะสัตว์เซลล์เดียวทั้งร่างกายมีเซลล์เดียวคือไม่มีสมอง ไม่มีหัวใจเปรียบเสมือนรัฐบาลนี้ไม่มีสมองมากพอในการบริหารประเทศมากพอ ไม่เคยเข้าใจประชาชนจะหาเช้ากินค่ำลำบากเพียงใด การเคลื่อนไหวของสัตว์เซลล์เดียวช้ามาก เปรียบเสมือนรัฐบาลนี้แก้ปัญหาช้ามากไม่ทันท่วงที ออกนโยบายต่างๆช้าไปหมด ทำให้ประชาชนอดตายทั้งทางตรงและทางอ้อม สัตว์เซลล์เดียวมีขนาดเล็กเหมือนรัฐบาลนี้หาความดีไม่เจอ พยายามอย่างไรก็ไม่ปรากฏ ก็เหมือนกระดาษเปล่าหาผลงานก็หาไม่เจอ สรุป ประเทศไทยในจักรวาลก็พัง 100%
จักรพล ระบุว่า หากมองย้อนจักรวาลอีกจักรวาล ถ้าพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล ตนเชื่อใจอย่างยิ่งว่าประเทศไทยจะดีขึ้นและฟื้นตัวรวดเร็ว เพราะพรรคเพื่อไทยพูดจริงทำจริง สร้างประชาธิปไตยที่กินได้ ไม่เน้นขายฝัน สิ่งที่รัฐบาลจะทำเร็วๆ คือการคงการจ้างงานอย่างรวดเร็ว การจัดตั้งกองทุนการท่องเที่ยว ผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ทั้งระบบ การท่องเที่ยวแบบใหม่ การท่องเที่ยวแบบเชิงคุณภาพ ตลาดใหม่ การท่องเที่ยวแบบสุขภาพ และทำการตลาดเชิงรุก ที่พรรคเพื่อไทยทำต่อเนื่อง โดยจะสร้างไปสู่ความสำเร็จ
จักรพล ระบุว่าจักรวาลของ พล.อ.ประยุทธ์มีจีดีพี 16.6 ล้านล้านบาท แต่จักรวาลของพรรคเพื่อไทยจะมีจีดีพีกว่า 18.3 ล้านล้านบาท อัตราจ้างงานการท่องเที่ยวจะจ้างไว้ไม่ให้ตกงาน จะคงการจ้างงานไว้ที่ 4.4 ล้านคน ในขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์คงการจ้างงานไว้เพียง 3.9 ล้านคน รัฐบาลพรคเพื่อไทยจะสร้างมูลค่าต่อหัวสร้างรายได้ท่องเที่ยวได้ 3 ล้านบาทในปี 2564 แต่รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ทำได้เพียง 1.5 ล้านล้านบาท
ส่วนจำนวนนักท่องเที่ยว พรรคเพื่อไทยจะสร้างได้ 25 ล้านคน แต่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์สร้างได้เพียง 7.5 ล้านคน ทั้งหมดนี้ถ้ารัฐบาลเปิดหูเปิดใจปรับใช้จะเป็นสิ่งที่ดี แต่ทั้งหมดจักรวาลพรรคเพื่อไทยจะทำให้ลูกหลานใช้ชีวิตความสุข ทั้งนี้ในสมัยหน้าหากมีรัฐบาลแบบนี้ ประเทศไทยได้เข้าสู่วิกฤตสูงสุด ไม่มีความหวังอีกแล้ว ความหวังจะเป็นผู้นำระดับโลกจะเป็นศูนย์ ความหวังให้คนรุ่นหลังไม่อดตายจะติดลบ
"นาฬิกาทราย ผมไม่ได้ให้ท่านด้วยความพิศวาส หากนาฬิกาทรายนี้คว่ำลงเมื่อไร การนับถอยหลังของรัฐบาลนี้ก็ใกล้จะหมดลงแล้ว อย่าเป็นเสี้ยนหนามของชีวิต ให้ประเทศไทยมีความสุุขอีกครั้ง บิล เกตส์ ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์ เคยบอกว่าคนเกิดมาจนจนไม่ผิด แต่คนตายจนนั้นผิด แต่หากเราไม่ได้อยากตายจน แล้วเราทำงานหาเช้ากินค่ำแต่ต้องถูกจับมัดมือชกจากการผิดพลาดของรัฐบาลถือว่ารับไม่ได้ ถึงเวลาที่เราจะโหวตคว่ำรัฐบาลนี้ หากจบลงเมื่อไร จะเป็นจุดเริ่มต้นความรุ่งโรจน์ ผมไม่อาจไว้วางใจ ครม.และนายกฯที่ทำลายประเทศไทยต่อเนื่อง หมดเวลาพวกท่านคืนความสุขให้พวกเราเสียที" จักรพล กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง