วันที่ 28 ส.ค. 2566 ที่พรรคพลังประชารัฐ เครือข่ายเกษตรกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ ภาคเหนือ และภาคกลาง จำนวน 200 คน ซึ่งประสบปัญหาความเดือดร้อนขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคทางการเกษตรในฤดูแล้ง รวมทั้งประสบปัญหาการบุกรุกและแผ้วถางพื้นที่ป่าไม้ ดินเสื่อมโทรม เนื่องจากขาดการปรับปรุงบำรุงดิน การใช้สารเคมีเพื่อการเกษตรมาก เดินทางมาชูป้ายสนับสนุนข้อความ เช่น ขอบคุณ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ ที่ออกประกาศ สปก.ช่วยเกษตรกรประกอบกิจการบนที่ดิน สปก. ผลักดันราคาข้าวหอมมะลิ สร้างแหล่งน้ำ ยึดที่ดินคืนจากนายทุนแจกคนที่ไม่มีที่ทำกิน

โดยเครือข่ายดังกล่าว ยื่นหนังสือให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐช่วยเหลือเกษตรกรอย่างเร่งด่วน เนื่องจากปัจจุบันเกษตรกรไทยมีหนี้สินจำนวนมาก เฉลี่ยแล้ว 1 ครัวเรือนจะมีหนี้สินมากถึง 450,000 บาท และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบปริมาณหนี้กับรายได้และสินทรัพย์ พบว่า กว่า 57% ของครัวเรือนมีหนี้สินสูงเกินศักยภาพในการชำระ

“ร.อ.ธรรมนัส มีผลงานช่วงที่เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เข้ามาช่วยเหลือเกษตรกรอย่างต่อเนื่องจนมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ ท่านจึงเป็นความหวังของเกษตรกร ซึ่งการแก้ปัญหาน้ำแล้งถือเป็นนโยบายสำคัญของพรรคพลังประชารัฐบาลตามสโลแกนมีเราไม่มีแล้ง มีน้ำไม่มีจน ทั้งนี้เครือข่ายเกษตรกร มองว่า ร.อ.ธรรมนัสมีความเหมาะสม อย่างยิ่งที่จะเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในรัฐบาลชุดปัจจุบันเพราะมีประสบการณ์เป็นที่พึ่งของเกษตรกรเข้าหาง่าย รับฟังปัญหาของเกษตรกรทุกกลุ่ม มีการติดตามหาทางช่วยเหลือของเกษตรกรมาโดยตลอด” เครือข่ายเกษตรกร ระบุ

เมื่อช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ เครือข่ายเกษตรกรดังกล่าวเดินทางไปยังศูนย์ประสายงานพรรคพลังประชารัฐ อ.ปทุมรัตน์ ร้อยเอ็ด อ.กุดรัง จ.มหาสารคาม อ. เมือง และอ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น อ. สุไกลโก-ลก จ.นราธิวาส อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ อ.บางเลน จ.นครปฐมเพื้อยื่นหนังสือสนับสนุนให้ ร.อ.ธรรมนัส เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯเพราะช่วงที่ ร.อ.ธรรมนัส ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรทำหน้าที่ประสานงานผลักดันงบประมาณให้เกษตรกร และแก้ปัญหาเกษตรกรจนประสบความสำเร็จหลายโครงการ