ภาควัต ศรีสุรพล ผู้สมัคร ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ พี่น้องประชาชน ฝากคำถามถึงรัฐบาลว่าเมื่อไหร่ ประชาชนจะได้ใช้เงินดิจิทัล 10,000 บาท เพราะทุกวันนี้พี่น้องประชาชนลำบากมากไม่มีเงินในกระเป๋า ไม่สามารถจับจ่ายซื้อสินค้า ตลาดนัดในพื้นที่ต่างจังหวัดมีแต่คนเดินไม่มีคนซื้อ นอกจากนี้ เงินเก่าที่เคยเก็บไว้ช่วงราคาข้าวดีๆ พี่น้องประชาชนต้องนำออกมาใช้ จ่ายตลอด 9 ปีที่ผ่านมา จนส่งผลให้ปัจจุบันต้องทนรับกับสภาพครอบครัวไม่มีเงินให้ลูกโรงเรียน
น่าประหลาดใจ กรณีที่กลุ่มนักวิชาการและอดีตผู้ว่าฯแบงก์ชาติ ออกมาคัดค้าน นโยบายดิจิทัล 10,000 บาท ของพรรคเพื่อไทย ทั้งๆที่รัฐบาลก่อนก็แจกเงินเหมือนกันแต่เงียบกริบไม่ส่งเสียงออกมาแต่อย่างใด แต่กับรัฐบาลพลเรือนบรรดาคนเหล่านี้ดาหน้าออกมา ครั้งนี้ส่งผลให้พี่น้องประชาชนเกิดความสับสน ไม่สบายใจ ประชาชนบางกลุ่มเกรงว่ามันจะส่งผล กระทบกับความเป็นอยู่ของประชาชน พี่น้องประชาชนมองว่าบรรดากลุ่มคน ที่ออกมาโจม ตีนโยบายส่วนใหญ่เป็นคนมีฐานะ กินหรู อยู่สบาย ไม่เคยเห็นความลำบากของคนจนที่รอความหวังจากรัฐบาล
ภาควัต กล่าวด้วยว่า การให้เป็นดิจิทัล 10,000 บาท ถ้าให้เป็นเงินสด เงินมันจะไปไหนก็ได้หรือไปกระจุกตัวแต่ในเมืองใหญ่หรือ เป็นเงินสดก็อาจเอาไปใช้หนี้ทีเดียวหมด ไม่เกิดการหมุนของเงิน ไม่เกิดการซื้อขาย ไม่เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจอื่นต่อเนื่อง
“นอกจากนี้เงินในโครงการ 10,000 บาท สามารถกำหนดพื้น ที่การใช้ได้ อาจจะไม่กำหนดรัศมี 4 กิโลเมตรในต่างจังหวัด ถ้ามันมีปัญหาเรื่องร้านค้าน้อย แต่อาจกำหนดเป็นพื้นที่ตำบลหรืออำเภอก็ได้ พี่น้อง ประชาชน สามารถนำเงินไปซื้อสินค้าอุปโภค บริโภค ซื้ออุปกรณ์ทำการเกษตร ซื้อปุ๋ย ซึ่งจะสามารถลดต้นทุนการเกษตรได้ ดังนั้นจากนโยบายดังกล่าวจะช่วยลด ค่าครองชีพและเติมเงินในกระเป๋า ของพี่น้องประชาชนทั่วประเทศได้อย่างแน่นอน” ภาควัต กล่าว