ไม่พบผลการค้นหา
กลุ่มประชาชนพิจิตรที่ได้รับผลกระทบจากกิจการเหมืองแร่ทองคำ เข้ายื่นหนังสือ 'ดีเอสไอ' เพื่อเร่งรัดให้เอาผิด 'บริษัทอัคราฯ'

กลุ่มประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคำ ในพื้นที่จังหวัดพิจิตร ได้เข้ายื่นหนังสือต่อนายพิเชฎฐ์ ทองศรีนุ่น หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนกรณีเหมืองแร่ทองคำ ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อทวงถามและเร่งรัดให้ดำเนินคดีกับริษัทอัครารีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ดำเนินกิจการเหมืองแร่ทองคำโดยมิชอบด้วยกฎหมาย

นายพิเชฎฐ์ ทองศรีนุ่น กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีดังกล่าวว่า ดีเอสไอได้แจ้งข้อหาต่อบริษัทอัคราฯ 3 ข้อหา 1.ข้อหาออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบทับซ้อนพื้นที่ป่า 2.บุกรุกยึดถือครอบครองพื้นที่ป่าถาวร 3.รุกล้ำเขตทางหลวงแผ่นดิน อย่างไรก็ตามด้วยข้อจำกัดของพนักงานสอบสวน ที่ผ่านมาบริษัทอัครา ได้ขอเลื่อนเข้ารับในการรับทราบข้อกล่าวหา และมีการนำเอกสารที่เกี่ยวข้องกับข้อหา ทำให้กรอบเวลาเดิมที่วางไว้ในเดือนมีนาคมคลาดเคลื่อนออกไป 

ขณะเดียวกันยืนยันว่าทางพนักงานสอบสวนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้นิ่งนอนใจ หากมีการตรวจสอบว่ามีผู้เกี่ยวข้องทางดีเอสไอจะเรียกมาทั้งหมด และยืนยันว่าไม่เลือกปฏิบัติพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคมปี 2561 

กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจากกรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับคดีของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินกิจการเหมืองแร่ทองคำ ที่จ.พิจิตร ของบริษัทอัคราฯ และขอให้ดีเอสไอรับเรื่องน้ำและสิ่งแวดล้อมเป็นคดีพิเศษ โดยดีเอสไอมีการลงพื้นที่ตรวจสอบทั้งทางอากาศและทางบก ตามที่มีการร้องทุกข์ พบจุดต้องสงสัยและมีการแจ้งข้อหาทั้ง 3 ข้อหา

ในขณะที่เมื่อปี 2560 นายเชิดศักดิ์ อรรถอารุณ ผู้จัดการฝ่ายประสานงานกิจการภายนอก บริษัท อัครา รีซอร์สเซส ได้ออกมาชี้แจงว่าผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ เป็นเพียงข้ออ้างจากคนบางกลุ่ม ซึ่งคนในพื้นที่ถูกทำให้เชื่อจากคนภายนอกว่า ตัวเองเจ็บป่วย ด้วยการมีสารพิษในร่างกาย แต่สาเหตุความขัดแย้งที่แท้จริง เป็นเรื่องปัญหาที่ดิน หลังมีบางกลุ่มพยายามเสนอขายที่ดินให้บริษัทในราคาสูงกว่าราคาประเมิน แต่บริษัทไม่สามารถรับซื้อไว้ได้ จึงมีการเคลื่อนไหวต่อต้านเหมืองทองคำ