ไม่พบผลการค้นหา
"คุณหญิงสุดารัตน์" โต้ กระแสข่าวความขัดแย้งในพรรคเพื่อไทย ระบุพร้อมนำบทเรียนปัญหาการอภิปรายไม่ไว้วางใจมา วิเคราะห์แก้ไขปรับปรุง และยังไม่ถึงขั้นต้องเปลี่ยนผู้บริหารพรรค เตรียมพิจารณาลงโทษงูเห่า ย้ำรัฐต้องมีมาตราคัดกรองคนที่กลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยงที่ชัดเจน

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีกระแสความขัดแย้งภายในพรรคว่า วันนี้ได้มีโอกาสฟังความเห็นของทุกคน ซึ่งต้องให้กำลังใจคนที่ปฏิบัติหน้าที่ นำข้อผิดพลาดและบทเรียนมาวิเคราะห์เพื่อหาทางแก้ไขเพื่อให้พรรคแข็งแรงขึ้น เวลานี้โลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ทั้งเทคโนโลยี, รสนิยม, ความคิดเห็นของสังคม ดังนั้นต้องน้อมรับฟังทั้งปัจจัยภายนอกและภายใน และนำมาปรับปรุงแก้ไข พร้อมยืนยันว่าภายในพรรคไม่มีการโทษกันไปมา สำหรับพรรคร่วมฝ่ายค้านจะทำงานยากขึ้นหรือไม่ หลังมีรอยร้าวเกิดขึ้น

คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุว่า ผู้ใหญ่ของพรรคได้มีการประชุมกัน ยืนยันเดินหน้าทำงานกันต่อ และกลุ่มอนาคตใหม่ก็ได้ชักชวนร่วมรับประทานอาหารในวันที่ 4 มี.ค. นี้ โดยย้ำว่าหลังจากนี้ คงไม่มีการปรับเปลี่ยนผู้บริหารของพรรคเพื่อไทย นั่นเพราะทุกคนคิดในเชิงบวก ไม่ต้องการให้พรรคแตกหรือพรรคเสียหาย

ส่วนเรื่องงูเห่าของพรรคเพื่อไทยที่ร่วมประชุมและลงมติการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค รวมทั้งกรรมการด้านจริยธรรม กำลังพิจารณาดำเนินการเรื่องนี้อยู่ ยืนยันว่า ที่เกิดเหตุซ้ำซากหัวหน้าพรรคไม่ได้เพิกเฉย แต่มอบหมายให้คณะกรรมการกำลังพิจารณาอยู่ ส่วนผลของการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น พรรคเพื่อไทยก็จะดำเนินการเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง โดยยื่นดำเนินการตามกฎหมาย ทั้งต่อศาลรัฐธรรมนูญ และ ป.ป.ช. ขณะที่กรณี ส.ส.เสนอญัตติตั้งกรรมาธิการวิสามัญศึกษาการเคลื่อนไหวของกลุ่มนักศึกษา คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่าถ้าจะรับฟังความเห็นของนักศึกษา ผู้ที่เกี่ยวข้องคือ หัวหน้ารัฐบาลหรือนายกรัฐมนตรีที่ต้องรับฟังโดยตรง จึงยังไม่จำเป็นต้องใช้เวทีของสภาฯ แต่หากเกิดปัญหาสภาก็จะเป็นผู้บรรเทาหรือระงับปัญหา แต่เวลานี้นายกรัฐมนตรีควรรับฟังเยาวชนก่อน

ทั้งนี้ คุณหญิงสุดารัตน์ ยังกล่าวถึงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ว่า ผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงโดยตรงอย่างจีน ก็ต้องกักตัวโดยบุคลากรทางการแพทย์ ส่วนผู้ที่เดินทางมาจากประเทศพื้นที่เสี่ยง ก็กักตัวเอง 14 วัน แต่ในไทยก็ยังมีมาตรการไม่ชัดเจน วันนี้สังคมต้องตระหนักแต่อย่าตระหนก การระบาดค่อนข้างรุนแรง ดังนั้นใครที่เดินทางมาจากต่างประเทศ แม้ยังไม่มีไข้ แต่ก็ต้องรับผิดชอบต่อสังคมด้วยการกักตัวเองอยู่คนเดียวอย่างน้อย 14 วัน ส่วนแรงงานไทยจำนวนมากที่มาจากประเทศเกาหลีใต้ รัฐบาลก็ต้องมีมาตรการรองรับคล้ายกับกรณีที่คนไทยเดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่น และอยากให้รัฐบาลประกาศมาตรการที่ชัดเจน