ไม่พบผลการค้นหา
3 องค์กรเศรษฐกิจด้านธุรกิจเกษตรและอาหาร เผยทิศทางส่งออกอาหารของไทย ปี 2560 มีมูลค่า 1 ล้านล้านบาท ตั้งเป้า ปี 2561 โตร้อยละ 7 ห่วงผลกระทบเงินบาทแข็งค่า ฉุดส่งออกลดลง

3 องค์กรเศรษฐกิจด้านธุรกิจเกษตรและอาหาร ประกอบด้วย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสถาบันอาหาร เผยข้อมูลภาพรวมอุตสาหกรรมอาหารของไทยในปี 2560 พบว่า การผลิตอุตสาหกรรมอาหารไทย ในปี 2560 ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 3 ส่วนการส่งออก คาดจะมีปริมาณ 32.5 ล้านตัน มีมูลค่า 1 ล้านล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.5 และร้อยละ 5.3 ตามลำดับ ลดลงเล็กน้อยจากการประมาณการครั้งก่อนที่คาดว่าจะส่งออกได้ 33.0 ล้านตัน มูลค่า 1.03 ล้านบาท

นายยงวุฒิ เสาวพฤกษ์ ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร กล่าวว่า ตัวเลขดังกล่าว มาจากการส่งออกสินค้าหลักหลายรายการลดลงกว่าที่คาด โดยเฉพาะกุ้ง ปลาทูน่ากระป๋อง มันสำปะหลัง และน้ำผลไม้ ประกอบกับ การแข็งค่าของเงินบาท ทำให้มูลค่าส่งออกในรูปเงินบาทลดลง แม้ว่ามูลค่าส่งออกในรูปดอลลาร์ฯ จะยังขยายตัวร้อยละ 10   

ทั้งนี้ กลุ่มประเทศ CLMV ยังคงเป็นตลาดส่งออกอาหาร อันดับ 1 ของไทย มีสัดส่วนร้อยละ 16.6 รองลงมา ได้แก่ ญี่ปุ่น ร้อยละ 13.5 อาเซียนเดิม ร้อยละ 11.6 สหรัฐอเมริกา ร้อยละ 10.6 , แอฟริกา ร้อยละ 9.3 , จีน ร้อยละ 9.0 , สหภาพยุโรป ร้อยละ 6.0 , ตะวันออกกลาง ร้อยะล 4.2 เป็นต้น 

โดยตลาดส่งออกหลักของไทยส่วนใหญ่ มีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อน ยกเว้น ตลาดอาเซียนเดิม (ASEAN-5) ลดลงร้อยละ 10.7 ตามปริมาณการส่งออกสินค้าหลัก อาทิ น้ำตาลทราย และแป้งมันสำปะหลังที่ลดลง / สหรัฐอเมริกา ลดลงร้อยละ 2.3 จากการส่งออกสับปะรดกระป๋อง และปลาทะเลแช่แข็งที่หดตัวลง และสหราชอาณาจักร ลดลงร้อยละ 10.9 เนื่องจากภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจและการแข็งค่าของค่าเงินปอนด์เทียบเงินบาท

แม้สินค้าส่งออกหลักหลายรายการจะชะลอตัวลง แต่ก็มีสินค้าส่งออกกลุ่มใหม่ๆ ที่ขยายตัวสูงและคาดว่าจะเป็นกลุ่มสินค้าดาวเด่นของไทยในอนาคต ได้แก่ กลุ่มผลไม้สดไม่รวมผลิตภัณฑ์มะพร้าว ปัจจุบันมีมูลค่าตลาด 72,340 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 5 ปีล่าสุด ร้อยละ 23 เครื่องดื่มชูกำลัง 22,520 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 10 ผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ 13,533 ล้านบาท โตร้อยละ 11 นม 10,469 ล้านบาท โตร้อยละ 6 ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารไม่รวมวิตามิน 3,201 ล้านบาท โตร้อยละ 6 และไอศกรีม 2,122 ล้านบาท โตร้อยละ 5 สินค้าส่วนใหญ่มีตลาดหลักอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มอาเซียน โดยเฉพาะ SMEs ซึ่งทั้ง 3 องค์กร จะร่วมกันผลักดันสินค้าในกลุ่มใหม่ๆ ที่มีศักยภาพมากขึ้น

ส่วนแนวโน้มอุตสาหกรรมอาหารไทย ในปี 2561 คาดว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากปี 2560 ร้อยละ 7 มีมูลค่าส่งออก 1.07 ล้านล้านบาท โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าสำคัญฟื้นตัวต่อเนื่อง ผลผลิตวัตถุดิบสินค้าเกษตรในปีการผลิต 2560/2561 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามปริมาณน้ำฝน และนโยบายสนับสนุนภาคเกษตรกรรมและเศรษฐกิจฐานรากของรัฐบาล ทั้งเกษตรกรและผู้ประกอบการรายย่อย (SMEs และกลุ่ม OTOP) โดยสินค้าที่คาดว่าจะมีมูลค่าส่งออกสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ข้าว ไก่ น้ำตาลทราย กุ้ง และ ทูน่ากระป๋อง ส่วนสินค้าที่คาดว่าจะมีมูลค่าขยายตัวเพิ่มขึ้นสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์มะพร้าว แป้งมันสำปะหลัง , อาหารพร้อมรับประทาน , กุ้ง , น้ำตาลทราย , เครื่องปรุงรส ไก่ และน้ำผลไม้  

สำหรับในปี 2561 มีปัจจัยเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตของอุตสาหกรรม ได้แก่ การแข็งค่าของค่าเงินบาทอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2560 ราคาพลังงานที่สูงขึ้นกระทบต่อต้นทุนสินค้าและค่าขนส่ง แนวโน้มการขาดแคลนแรงงานทั้งภาคเกษตรกรรมและภาคอุตสาหกรรม และต้นทุนแรงงานมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขันของประเทศ 

สำหรับก้าวต่อไปของอุตสาหกรรมอาหาร คือ การผลักดันอุตสาหกรรมเป้าหมาย 10 อุตสาหกรรมตามนโยบายของรัฐ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ อุตสาหกรรมเกษตร แปรรูปและอาหาร โดยเฉพาะในพื้นที่ EEC ที่ภาครัฐ สถาบันอาหาร รวมทั้งสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ร่วมกันผลักดันให้เกิดการลงทุนในพื้นที่ดังกล่าว เพื่อผลสำเร็จเป็นรูปธรรม