มีเดีย อินไซด์ เอ้าท์ จัดเสวนา หัวข้อ “‘จำเลยรัฐ จาก NDM ถึง MBK39” โดยนายทวีศักดิ์ เกิดโภคา นักข่าวประชาไท เล่าให้ฟัง ในฐานะถูกตั้งข้อกล่าวหา ผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2559 จากการลงพื้นที่ทำข่าว กลุ่มประชาธิปไตยใหม่ หรือ เอ็นดีเอ็ม โดยบอกว่า เป็นเพียงการทำหน้าที่ผู้สื่อข่าว ซึ่งขอติดรถกลุ่มเอ็นดีเอ็ม ที่กำลังเดินทางไปให้กำลังใจเพื่อนที่จังหวัดราชบุรี แต่เมื่อตำรวจค้นรถ พบเอกสารและสติกเกอร์โหวตโนประชามติ จึงถูกเหมารวมตั้งข้อกล่าวหา ต้องนอนคุก 1 คืน และยื่นหลักประกัน 1 แสน 4 หมื่นบาท ทำให้ตลอดเวลา 1 ปีต้องเสียเวลา เสียสุขภาพจิตในการวนเวียนขึ้นศาล สุดท้ายศาลยกฟ้อง เพราะหลักฐานฝ่ายโจทย์ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าผิดจริง

ส่วนปรากฏการณ์การตั้งข้อกล่าวหากลุ่ม MBK39 ในฐานะคนทำข่าว มองว่า เป็นการพยายามจัดกลุ่ม โยงว่าเป็นกลุ่มคนเสื้อแดง การจับกุมไม่มีระบบ และยัดข้อกล่าวหาเพื่อปรามไม่ให้คนมาร่วมชุมนุม

ด้านนางสาวอ้อมทิพย์ เกิดผลานันท์ นิสิตนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รู้สึกตกใจ ที่ถูกเหวี่ยงแห ตั้งข้อหาผิด พ.ร.บ.การชุมนุมในที่สาธารณะ พ.ศ.2558 และขัดคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2558 ทั้งที่ไปร่วมสังเกตุการณ์ตอนท้ายๆ ของกิจกรรม โดยยืนอยู่นอกวงล้อม และไม่ได้ยินด้วยซ้ำว่า มีการพูด หรือปราศรัยอะไร อีกทั้งยังมาทราบในภายหลังว่า ตำรวจบอกให้กลุ่มผู้จัดกิจกรรมขึ้นไปจัดบนสกายวอร์ก โดยไม่ได้แจ้งเตือนว่า ผิดกฎหมายเพราะอยู่ในรัศมี 150 เมตร จากเขตพระราชฐาน อย่างไรก็ตาม มองว่า การถูกตั้งข้อกล่าวหาของกลุ่ม MBK39 ทำให้สังคมจับตามองการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ และยิ่งทำให้คนรุ่นใหม่สนใจความไม่ปกติที่เกิดขึ้นจาก คสช.

เช่นเดียวกับ นายสงวน คุ้มรุ่งโรจน์ สื่อมวลชนอิสระ บอกว่า ทำหน้าที่สื่อมากว่า 40 ปี การถูกตั้งข้อกล่าวหาครั้งนี้ ทำลายศักดิ์ศรีความเป็นสื่ออย่างมาก พร้อมตั้งข้อสงสัยความพยายามเอาผิดให้ได้ ในข้อหาผิด พ.ร.บ.การชุมนุมในที่สาธารณะ ซึ่งพล.ต.อ.ศรีวราห์ รังศิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. อ้างว่าอยู่ในรัศมีเขตพระราชฐาน 148.53 เมตร พร้อมข้อสังเกตุว่า มีความพยายามเชื่อมโยงกับกลุ่ม นปช. ทั้งที่แสดงตัวแล้วว่าเป็นสื่อ และรู้สึกเสียดาย ที่องค์กรในประเทศที่เกี่ยวข้องกับสิทธิสื่อ ไม่เคยแสดงตัวเรียกร้องสิทธิให้ผู้ทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ถูกดำเนินคดีโดยไม่เป็นธรรม