ทางการอินโดนีเซียประกาศเตือนสายการบินในระดับ "สีแดง" หรือการเตือนภัยขั้นสูงสุดจากทั้งหมด 4 ขั้น หลังจากภูเขาไฟอากุงปะทุขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ในรอบสัปดาห์ ปล่อยเถ้าถ่านและควันหนาทึบออกมาสู่ท้องฟ้าสูงถึง 4,000 เมตร ทำให้หลายเที่ยวบินต้องยกเลิก เนื่องจากทัศนวิสัยไม่เอื้ออำนวยต่อการบิน และเถ้าถ่านภูเขาไฟอาจทำให้เครื่องยนต์เสียหายได้ อย่างไรก็ตาม สนามบินของบาหลียังคงเปิดให้บริการตามปกติ แต่สนามบินเกาะลอมบอก ซึ่งได้รับผลกระทบจากเถ้าภูเขาไฟหนักที่สุด ปิดให้บริการ
การเตือนภัยระดับสีแดง หมายถึงการระเบิดของภูเขาไฟมีโอกาสสูงที่จะเกิดขึ้น โดยภูเขาไฟอากุง อยู่ห่างจากจุดท่องเที่ยวหลักของเกาะบาหลีประมาณ 70 กิโลเมตร อย่างไรก็ตาม เถ้าถ่านจากภูเขาไฟส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง ทั้งต่อการสัญจรและสุขภาพของประชาชน โดยขณะนี้ทางการเริ่มแจกจ่ายมาสก์ปิดจมูกให้กับคนในพื้นที่แล้ว เพื่อป้องกันเถ้าภูเขาไฟที่ปลิวอยู่ในอากาศ และผู้ที่อยู่ในรัศมี 7.5 กิโลเมตรรอบภูเขาไฟ อพยพออกนอกพื้นที่แล้ว
ภูเขาไฟอากุงพ่นเถ้าถ่านออกมาสูงกว่า 4 กิโลเมตร และเถ้าละอองจากภูเขาไฟปกคลุมทั่วบริเวณใกล้เคียง ส่งผลต่อสุขภาพของคนในพื้นที่
ภูเขาไฟอากุงเป็นหนึ่งในภูเขาไฟขนาดใหญ่ในอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่กว่า 130 ลูก ครั้งสุดท้ายที่ภูเขาไฟอากุงปะทุ คือเมื่อปี 1963 ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 1,000 ราย ถือเป็นภัยธรรมชาติครั้งร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งของอินโดนีเซีย
ภูเขาไฟอากุงส่อเค้าว่าจะปะทุอย่างต่อเนื่องตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา ทำให้คนกว่า 140,000 คนต้องอพยพ และกว่า 25,000 คน ยังต้องอยู่ในที่พักอาศัยชั่วคราว โดยการท่องเที่ยวของเกาะบาหลีได้รับผลกระทบอย่างหนัก ทำให้สูญเสียรายได้กว่า 110 ล้านดอลลาร์ หรือ 3,520 ล้านบาท