เว็บไซต์ไฟแนนเชียล ไทม์สรายงานโดยอ้างแหล่งข่าว ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของเชื้อพระวงศ์ซาอุดีอาระเบียที่ถูกควบคุมตัวจากการปราบปรามคอร์รัปชันครั้งใหญ่ของรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย ที่ออกมาเปิดเผยว่า เจ้าชาย อดีตรัฐมนตรี และนักธุรกิจรายใหญ่ของซาอุดีอาระเบียที่ถูกควบคุมตัวทั้ง 201 คน ต่างได้รับข้อเสนอจากรัฐบาลให้มอบทรัพย์สินร้อยละ 70 ให้แก่รัฐบาล เพื่อแลกกับการปล่อยตัวเป็นอิสระ
โดยแหล่งข่าวรายนี้เปิดเผยว่า มีนักธุรกิจรายใหญ่คนหนึ่งตกลงยินยอมมอบทรัพย์สินร้อยละ 70 ให้แก่รัฐบาลซาอุดีอาระเบียแล้ว แต่ยังไม่มีการเปิดเผยว่า การส่งมอบทรัพย์สินจะเป็นไปในลักษณะใด ขณะที่รัฐบาลซาอุดีอาระเบียยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องนี้
มกุฏราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน
ไฟแนนเชียล ไทม์สคาดการณ์ว่า หากกลุ่มเจ้าชายและนักธุรกิจรายใหญ่ที่ถูกทางการซาอุดีอาระเบียควบคุมตัวยอมมอบทรัพย์สินให้แก่รัฐบาล จะส่งผลให้รัฐบาลซาอุดีอาระเบียได้รับเงินหลายแสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเพียงพอต่อการแก้ปัญหาการขาดดุลงบประมาณ ที่รัฐบาลเผชิญมาอย่างต่อเนื่องติดต่อการหลายปี เนื่องจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลง เฉพาะปี 2016 รัฐบาลซาอุดีอาระเบียขาดดุลงบประมาณถึง 79,000 ล้านดอลลาร์
ที่ผ่านมารัฐบาลซาอุดีอาระเบียพยายามใช้หลายวิธีในการแก้ปัญหาการขาดดุลงบประมาณ ทั้งการตัดลดรายจ่าย, ขึ้นภาษี, ขายพันธบัตรรัฐบาล รวมไปถึงการเปิดให้เอกชนสามารถซื้อหุ้นของบริษัทซาอุดี อารัมโก ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันแห่งชาติของรัฐบาล แต่ความพยายามเหล่านี้ยังคงไม่ประสบความสำเร็จ
เจ้าชายอัลวาลีด บิน ทาลาล
หนึ่งในเชื้อพระวงศ์พระองค์สำคัญของซาอุดีอาระเบียที่ถูกควบคุมตัวจากการปราบปรามคอร์รัปชันครั้งนี้ คือ เจ้าชายอัลวาลีด บิน ทาลาล ซึ่งเป็นประธานบริษัทคิงดอม โฮลดิง บริษัทด้านการลงทุนชื่อดังของซาอุดีอาระเบีย และเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของเครือบริษัทชั้นนำของโลก เช่น โฟร์ซีซัน, ซิตี กรุ๊ป, ทวิตเตอร์ และแอปเปิล นอกจากนี้ นิตยสารฟอร์บยังเคยจัดอันดับให้พระองค์เป็นบุคคลที่ร่ำรวยอันดับ 34 ของโลก
ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า การปราบปรามคอร์รัปชันของรัฐบาลซาอุดีอาระเบียในครั้งนี้ เป็นความพยายามในการกระชับอำนาจของมกุฏราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน และเป็นความพยายามในการปฏิรูประบอบเศรษฐกิจของซาอุดีอาระเบียให้ขาวสะอาด ทันสมัย และเปิดกว้างต่อการลงทุน อย่างไรก็ตาม การเปิดเผยของเว็บไซต์ไฟแนนเชียล ไทม์ส ได้นำไปสู่การตั้งคำถามต่อเรื่องนี้