ไม่พบผลการค้นหา
นางนิกกี เฮลีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำ UN กล่าวประณาม UN ว่าสร้างความเสียหายต่อกระบวนการเจรจาสันติภาพในตะวันออกกลางและเป็นปฏิปักษ์ต่ออิสราเอล ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตจากการปะทะกับกองทัพอิสราเอล 2 ราย บาดเจ็บเกือบ 800 คน

เมื่อวานนี้ (8 ธันวาคม 2560) นางนิกกี เฮลีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติหรือ UN ได้กล่าวประณาม UN ระหว่างการประชุมฉุกเฉินของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ UNSC ในประเด็นที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศรับรองนครเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอลอย่างเป็นทางการ โดยนางเฮลีย์ระบุว่า ที่ผ่านมา UN ได้สร้างความเสียหายต่อการเจรจาสันติภาพในตะวันออกกลาง มากกว่าการส่งเสริมสันติภาพ พร้อมย้ำว่า UN เป็นหนึ่งในองค์กรชั้นแนวหน้าระดับโลกที่เป็นปฏิปักษ์ต่ออิสราเอล นอกจากนี้ นางเฮลีย์ยังยืนยันว่า การที่สหรัฐฯ รับรองนครเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล เป็นการกระทำที่ถูกต้องและเป็นไปเพื่อสันติภาพระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์

UN Mideast Israel Pal_Rata.jpg

นิกกี เฮลีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติ

อย่างไรก็ตาม ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม ตัวแทนจากอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี สวีเดน และอิตาลีได้ออกแถลงการณ์ร่วมกัน ระบุว่า การประกาศรับรองนครเยรูซาเลมและย้ายสถานเอกอัครราชทูตไปยังนครเยรูซาเลมของสหรัฐฯ เป็นการกระทำที่ไม่ส่งเสริมสันติภาพในตะวันออกกลาง และทั้ง 5 ประเทศพร้อมที่จะเป็นตัวกลางในการเริ่มกระบวนการเจรจาสันติภาพใหม่ โดยยึดมั่นหลักการการเจรจาแบบ 2 รัฐระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ ภายใต้เงื่อนไขที่นานาชาติยอมรับ โดยตัวแทนจาก 5 ประเทศยังเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯ เปิดเผยรายละเอียดของนโยบายด้านการตั้งถิ่นฐานของชาวอิสราเอลและชาวปาเลสไตน์

ด้านนายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า กระบวนการย้ายสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำอิสราเอลจากกรุงเทลอาวีฟ ไปยังนครเยรูซาเลมจะยังไม่เกิดขึ้นภายในปีนี้หรือปีหน้า แม้นายทรัมป์จะลงนามให้เริ่มกระบวนการย้ายสถานเอกอัครราชทูตแล้วก็ตาม โดยนายทิลเลอร์สันระบุว่า การประกาศรับรองนครเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอลอย่างเป็นทางการของสหรัฐฯ ในครั้งนี้ ยังไม่ใช่การชี้ขาดถึงสถานะของนครเยรูซาเลม เพราะทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้จำเป็นต้องหารือและตัดสินใจร่วมกัน

Israel Palestinians T_Rata.jpg

กองทัพอิสราเอลสลายการชุมนุมของชาวปาเลสไตน์

ขณะที่โฆษกประจำตัวนายมาห์มูด อับบาส ประธานาธิบดีปาเลสไตน์เปิดเผยว่า ปาเลสไตน์อาจไม่ต้อนรับนายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่มีกำหนดการเดินทางเยือนตะวันออกกลางในช่วงปลายเดือนนี้ พร้อมระบุว่า สิ่งที่สำคัญต่อปาเลสไตน์ไม่ใช่นายเพนซ์ แต่เป็นนครเยรูซาเลม และปาเลสไตน์จะไม่ทอดทิ้งนครเยรูซาเลมเพื่อต้อนรับนายเพนซ์

ส่วนสถานการณ์ในเขตเวสต์แบงก์ ฉนวนกาซา และฝั่งตะวันออกของนครเยรูซาเลมยังคงเป็นไปอย่างร้อนระอุ หลังจากที่กลุ่มติดอาวุธฮามาสได้ประกาศให้เมื่อวานนี้เป็น 'วันแห่งความเดือดดาล' และเรียกร้องให้ชาวปาเลสไตน์ลุกฮือต่อต้านอิสราเอล โดยกลุ่มผู้ชุมนุมชาวปาเลสไตน์ได้ทำการเผายางรถยนต์และขว้างปาก้อนหินใส่ทหารอิสราเอล ขณะที่กองทัพอิสราเอลตอบโต้ด้วยแก๊สน้ำตา กระสุนยาง และกระสุนจริง 

Israel Palestinians T_Rata (1).jpg

กองทัพอิสราเอลสลายการชุมนุมของชาวปาเลสไตน์

กระทรวงสาธารณสุขของปาเลสไตน์เปิดเผยว่า การปะทะระหว่างชาวปาเลสไตน์กับกองทัพอิสราเอลเมื่อวานนี้ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 ราย เป็นชายชาวปาเลสไตน์วัย 30 ปีที่ถูกทหารอิสราเอลยิงด้วยกระสุนจริงจนเสียชีวิตในเขตตะวันออกของฉนวนกาซา และชายวัย 54 ปีที่เสียชีวิตจากบาดแผลที่ได้รับจากการโจมตีทางอากาศของกองทัพอิสราเอลในเขตฉนวนกาซา ขณะที่องค์กรกาชาดสากลรายงานว่า ยอดผู้บาดเจ็บในวันแห่งความเดือดดาลสูงถึง 767 คน และผู้บาดเจ็บส่วนใหญ่เป็นเพียงเยาวชน ในจำนวนนี้บาดเจ็บจากการโจมตีทางอากาศของกองทัพอิสราเอลอย่างน้อย 25 คน ซึ่งเป็นเด็ก 6 คน

ด้านกองทัพอิสราเอลระบุว่า การโจมตีทางอากาศครั้งนี้พุ่งเป้าไปที่สิ่งปลูกสร้างทางการทหารของกลุ่มติดอาวุธฮามาสในฉนวนกาซา ซึ่งกองทัพอิสราเอลระบุว่า เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการยิงจรวด 3 ลูกมายังอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยจรวดลูกแรกถูกสะกัดด้วยระบบป้องกันขีปนาวุธ 'ไอออน-โดม' ในเมืองทางตอนใต้ของอิสราเอล จรวดลูกที่ 2 ลอยไม่ข้ามพรมแดนอิสราเอล และจรวดลูกที่ 3 ตกในเมืองทางตอนใต้ของอิสราเอล แต่ไม่มีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บแต่อย่างใด

Jordan_Rata.jpg

ชาวจอร์แดนเดินขบวนประท้วงการรับรองนครเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอลของสหรัฐฯ

เมื่อวานนี้ ชาวมุสลิมหลายพันคนในจอร์แดน อียิปต์ อิรัก ตุรกี ตูนิเซีย อิหร่าน มาเลเซีย บังกลาเทศ ปากีสถาน อัฟกานิสถาน เขตปกครองตนเองแคชเมียร์ของอินเดีย และอินโดนีเซีย ต่างรวมตัวประท้วงเพื่อแสดงความไม่เห็นด้วยต่อการที่สหรัฐฯ ประกาศรับรองนครเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอลอย่างเป็นทางการ

ภาพ: AP

เรียบเรียงโดย: สลิสา ยุกตะนันทน์