ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา นักธุรกิจคนสำคัญของโลกไม่ว่าจะเป็นอีลอน มัสก์ ผู้ก่อตั้งเทสลาและสเปซเอ็กซ์ หรือเซอร์ริชาร์ด แบรนสัน เจ้าของธุรกิจเครือเวอร์จิน ต่างก็ออกมาสนับสนุน Universal Basic Income (UBI) หรือแนวคิดที่ว่าพลเมืองทุกคนควรได้รับเงินเดือนขั้นต่ำจากรัฐในฐานะสวัสดิการขั้นพื้นฐานแห่งรัฐ ไม่ต่างจากการเรียนฟรีและการรักษาพยาบาลฟรี
และล่าสุด ก็มีงานวิจัยที่ออกมารับรองว่าการให้เงินเดือนขั้นพื้นฐานแก่พลเมือง ไม่ได้ทำให้เศรษฐกิจล่มสลาย ไร้วินัยทางการคลัง แต่กลับส่งผลดีต่อเศรษฐกิจด้วยซ้ำ โดยสถาบันรูสเวลท์ของสหรัฐฯ ประเมินว่าหากมีการจ่ายเงินเดือนพื้นฐานแก่ประชากรอเมริกันทุกคนเป็นเวลา 8 ปี จะสามารถเพิ่มจีดีพีประเทศได้มากถึง 2.45 ล้านล้านดอลลาร์ หรือ 78 ล้านล้านบาท
สถาบันได้ทดลองโดยตั้งอยู่บนสมมติฐาน 3 ประการ คือ 1. มีการให้เงินเดือนพื้นฐาน 1,000 ดอลลาร์ หรือ 31,000 บาทแก่ประชาชนที่บรรลุนิติภาวะแล้วทุกคน 2. มีการให้เงินเดือนพื้นฐาน 500 ดอลลาร์ หรือ 15,600 บาทแก่ประชาชนที่บรรลุนิติภาวะแล้วทุกคน 3. มีการให้เงินเด็ก 250 ดอลลาร์ หรือ 7,800 บาททุกคน
ปรากฏว่าผลวิจัยพบว่ายิ่งให้เงินเป็นจำนวนมาก ก็ยิ่งส่งผลดีต่อเศรษฐกิจมากเท่านั้น โดยหากมีการให้เงินเดือนพื้นฐาน 1,000 ดอลลาร์ จะทำให้เศรษฐกิจโตขึ้นมากถึง 12% ภายใน 8 ปี หรือทำให้ประเทศมีรายได้เพิ่มขึ้น 78 ล้านล้านบาท อย่างไรก็ตาม พบว่าหากใช้วิธีเพิ่มรายได้ให้รัฐด้วยการขึ้นภาษีเพื่อนำมาจ่ายเงินเดือนประชาชน ผลที่ได้จะไม่กว้างขวางเท่านี้ เพราะเท่ากับว่าประชาชนมีรายจ่ายเพิ่มขึ้นพอๆกับรายได้ แต่ถ้าเป็นการเพิ่มรายได้ให้รัฐผ่านการยอมทำงบประมาณขาดดุล กู้เงินมาเพื่อจ่ายเงินเดือนให้ประชาชน ผลที่เกิดกับระบบเศรษฐกิจจะเป็นไปอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย
การจ่ายเงินเดือนให้ประชาชนเริ่มเป็นที่พูดถึงกันมากเมื่อโลกเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงในระบบอุตสาหกรรม หุ่นยนต์และ AI เริ่มเข้ามาแทนที่แรงงานระดับล่างถึงระดับกลางมากขึ้น ความเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้ประชาชนมีแนวโน้มที่จะตกงานมากขึ้น นักเศรษฐศาสตร์จำนวนมากจึงเริ่มคิดว่ารัฐบาลจำเป็นต้องรื่อระบบรัฐสวัสดิการใหม่ ให้ครอบคลุมคนที่จะตกงานมากขึ้น และเก็บภาษีหุ่นยนต์หรือเทคโนโลยีเพื่อนำเงินมาใช้จ่ายในการดูแลประชาชน โดยเฉพาะการมีเงินเดือนพื้นฐานสำหรับประชาชนทุกคน อย่างไรก็ตาม ศาสตราจารย์โจเซฟ สติกลิทซ์ นักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบลชื่อดัง มองว่าแม้เงินเดือนพื้นฐานจะเป็นสิ่งจำเป็น แต่การให้เงินกับประชาชนทุกคนในประเทศอาจเป็นการใช้งบประมาณที่ไม่มีประสิทธิภาพมากนัก สิ่งที่เป็นไปได้กว่าคือการโฟกัสให้เงินเดือนกลุ่มที่จำเป็นก่อน