การเมือง
'ประยุทธ์' ฝากนักเรียนแจงพ่อ-แม่ ยุทธศาสตร์ชาติไม่สืบทอดอำนาจ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะเดินทางมาตรวจเยี่ยมโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิต อาหารกลางวัน และการจัดการศึกษาเพื่อเตรียมเข้าสู่โครงการโรงเรียนร่วมพัฒนา (Partnership School Project) ณ โรงเรียนวัดเกาะ (กริ่มกำพล) ต.หนองตะพาน อ.บ้านค่าย จ.ระยอง
หลังจากเดินทางมาถึงนายกรัฐมนตรีได้พบปะกับข้าราชการและประชาชนในพื้นที่ โดยกล่าวว่า วันนี้ขอให้ทุกคนช่วยกัน ร่วมมือกันช่วยกันขับเคลื่อน ไม่ใช่ตนคนเดียว แต่ต้องเดินไปด้วยกัน พร้อมเน้นย้ำในเรื่องของการเพาะปลูกที่ต้องดูความต้องการของตลาด เช่น การปลูกสับปะรดที่ขณะนี้ราคาตก จึงต้องดูว่าทั้งประเทศปลูกกันเท่าใด หากปลูกหมดราคาจะตกลงและจะส่งผลกระทบกับการใช้จ่ายงบประมาณเหมือนที่ผ่านมา และส่วนตัวยืนยันว่าไม่ได้นำเงินมาให้เพื่อให้หยุดประท้วงและไม่ได้มาเรื่องการเมืองเมื่อก่อนมีแค่ ส.ส.มา แต่ตอนนี้มาทั้งคณะรัฐมนตรีมาฟังทุกคนและคิดว่าทำอย่างไรให้ยั่งยืนและเข้มแข็ง
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า วันนี้รัฐบาลกำลังคิดใหม่ทั้งหมด ดังนั้นทุกคนต้องช่วยกันตั้งแต่ระดับท้องถิ่น อย่างไรก็ตาม การศึกษาของประเทศไทยไม่ได้เลวร้าย แต่รัฐบาลได้มีนโยบายที่ชัดเจน รวมถึงการปฏิรูปที่หากทุกคนไม่เริ่มแก้ที่ตนเองก็ไปไม่ได้จึงต้องรู้ว่าวันนี้ปัญหาของเราอยู่ตรงไหน
เด็กแซวนายกฯ ชอบผู้หญิงแบบไหน
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมคณะได้พูดคุยกับผู้ปกครองและประชาชน และร่วมรับประทานอาหารกับเด็กโรงเรียนวัดเกาะ ที่นำผลผลิตจากพืชผักสวนครัวที่ปลูกในโรงเรียนมาประกอบอาหาร และพูดคุยกับเด็กๆ อย่างเป็นกันเอง พร้อมบอกว่าที่มาเป็นทหารเพราะบิดาเป็นทหาร แม่เป็นครู เกิดในค่ายทหาร จึงคิดแต่อยากเป็นทหารอย่างเดียว ใครจะเป็นทหารต้องออกกำลังกายเยอะๆ
ขณะที่เด็กนักเรียน ถามต่อว่า นายกรัฐมนตรีชอบผู้หญิงแบบไหน นายกรัฐมนตรีจึงตอบว่าชอบแบบที่เป็นภรรยาปัจจุบัน และฝากให้เด็กไปบอกพ่อแม่ออกไปเลือกตั้งด้วย รวมถึงฝากบอกผู้ปกครอง ว่ายุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ไม่ใช่การสืบทอดอำนาจและโครงการไทยนิยมยั่งยืนไม่ใช่เรื่องการเมือง แต่เป็นการทำให้บ้านเมืองและคนไทยทุกคนเข้มแข็งไปด้วยกัน
จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมการเรียนการสอนการสอน ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ พร้อมสอนเด็กๆ ให้รู้จักผสมคำ พร้อมยกตัวอย่างเด็ก 13 คนทีมหมูป่า อะคาเดมี ที่ไปติดถ้ำ แล้วพูดภาษาอังกฤษกับนักดำน้ำได้ ไม่ช้าเกินไปอยากให้เด็กๆ ทุกคนพยายามเรียน พร้อมยืนยันรัฐบาลต้องการให้เด็กเรียนถึงปริญญาตรีแล้วกลับมาพัฒนาบ้านเกิด
ขณะเดียวกัน ยังสาธิตการออกกำลังกายให้กับเด็กนักเรียนด้วย เพื่อที่จะได้ไม่ง่วงในเวลาเรียน และขอให้กระทรวงศึกษาธิการไปพิจารณาแยกคำตอบ ออกจากหนังสือเรียน เพื่อให้ รุ่นน้องนำแบบเรียนไปใช้ต่อได้และจะทำให้ประหยัดงบประมาณ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
