นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการลงคะแนนในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมาว่า ในฐานะสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลต้องขอแสดงความยินดีกับนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่สอบผ่าน ได้รับความไว้วางใจจากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรทั้ง 6 คน 

นายเทพไท กล่าวว่า แม้ได้รับคะแนนเสียงสอบผ่านในสภาผู้แทนราษฎรแล้ว แต่ยังมีคะแนนเสียงจากกระแสสังคมหรือเสียงจากประชาชนทั่วทั้งประเทศด้วย ว่าจะให้ความไว้วางใจกับรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายทั้งหมดหรือไม่ และไม่ว่าทุกท่านจะผ่านมติจากสภาผู้แทนราษฎรแล้วก็ตามถ้ากระแสทางสังคมไม่ยอมรับ ย่อมมีผลกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาลอย่างแน่นอน อยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ได้รับฟังกระแสทางสังคมด้วย และต้องนำข้อมูลจากการอภิปรายในสภามาพิจารณาแก้ไขและปรับปรุงการทำงานของรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลการอภิปรายที่น่าสนใจของ ส.ส.อย่างน้อย 5 คน คือ

1. ข้อมูลจากการอภิปรายของนายไชยา พรหมมา เรื่องแผนการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิในเฟส 2 ที่มีการเปลี่ยนแผนแม่บทการก่อสร้าง มีเงื่อนงำ ความไม่ชอบมาพากล

2. ข้อมูลจากการอภิปรายของนางสาวศิริกัญญา ตันสกุล เรื่องทุจริตเชิงนโยบาย เอื้อประโยชน์ให้เอกชน ของบริษัทท่าอากาศยานไทยจำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.

3. ข้อมูลจากการอภิปรายของนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร เรื่องขบวนการไอโอ ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภายในประเทศ (กอ.รมน.)

4. ข้อมูลจากการอภิปรายของนายธีระชัย พันธุมาศ เรื่องคำพิพากษาคดีค้ายาเสพติดของศาลออสเตรเลีย ที่มีคำพิพากษาชัดเจนจำคุก ร.อ.มนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

5. ข้อมูลการอภิปรายของนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ เรื่องวุฒิการศึกษาปริญญาเอก และการโอนหุ้นให้กับบริวารของ ร.อ.ธรรมนัส

ซึ่งเป็นข้อมูลการอภิปรายที่น่าสนใจ มีน้ำหนักและมีเหตุผลเพียงพอที่รัฐบาลต้องรับฟัง และนำไปปรับปรุงแก้ไข มิฉะนั้นแล้วจะเกิดกระแสกดดันจากสังคมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ส่วนการที่ พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศว่าหลังการอภิปรายแล้วจะไม่มีการปรับ ครม.นั้น ส่วนตัวเชื่อว่าจะมีอาฟเตอร์ช็อกหลังจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจอย่างแน่นอน เพราะในอดีตที่ผ่านมา หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจทุกครั้ง จะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในหลายรูปแบบต่างๆเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการยุบสภา นายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีลาออก หรือการปรับ ครม. และในครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน ผลของการอภิปรายจะนำไปสู่กระแสกดดันให้นายกรัฐมนตรีต้องปรับคณะรัฐมนตรีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ท่ามกลางสถานการณ์การเมืองที่ร้อนแรง และรุมเร้าในการชุมนุมของนักเรียน นิสิตนักศึกษา ที่กำลังขยายตัวไปทั่วประเทศเหมือนไฟลามทุ่งอยู่ในขณะนี้