เวลา 14.15 น. วันที่ 15 ม.ค. 2566 ที่บ้านโพนสวรรค์ ต.โคกกลาง อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรคเพื่อไทย ในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการประกาศแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย
โดย แพทองธาร กล่าวถึงการเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทยก่อนยุบสภาฯ ว่า พรรคเพื่อไทยพร้อมประกาศรายชื่อแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย ตามกรอบเวลา ซี่งตอนนี้มีหลายกระแสเรื่องยุบสภา แน่นอนการเปิดตัวยังอยู่ในไทม์ไลน์แน่นอน ทั้งนี้ต้องดูหลายปัจจัยเพราะยังไม่มีการระบุวันที่ออกมา ต้องดูเรื่องสภาฯ ประกอบด้วย
ด้าน ประเสริฐ กล่าวว่า แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย ต้องรอคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยพิจารณาก่อน ส่วนจะเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ ได้ก่อนเดือน ก.พ. นี้หรือไม่ต้องดูเหตุการรณ์ประกอบ เพราะวันที่ 7 ก.พ.นี้จะเป็นวันสุดท้ายที่ ส.ส.จะต้องย้ายพรรคก่อนที่สภาฯจะครบวาระ และเหตุการณ์ดังกล่าวจะส่งผลต่อองค์ประชุมสภาฯ มีปัญหาและเข้าสู่การยุบสภาฯก็เป็นได้ อีกทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม สังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) แต่พรรคก็ไม่มี ส.ส. ก็เป็นไปได้ว่าจะยุบสภาฯ เพื่อหนีการอภิปรายทั่วไป ตามมาตรา 152 ของรัฐธรรมนูญ
ขณะนี้รัฐบาลแจ้งเวลาการอภิปรายมาว่าจะเป็นหลังวันที่ 15 ก.พ. ซึ่งฝ่ายค้านยื่นญัตติเมื่อปลายเดือนธ.ค. 2565 ปกติหลังจากยื่นญัตติเราจะทราบผลแล้ว แต่ตอนนี้ผ่านมา 45 วัน นานผิดปกติ ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้ เราจึงประเมินช่วงเวลาในการเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ ด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความชัดเจนว่า เศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)จะมาเป็นแคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทยแล้วหรือไม่ เนื่องจากมีกระแสข่าวว่าจะลงพื้นที่กับครอบครัวเพื่อไทย แพทองธาร กล่าวว่า “ไม่ทราบว่าสื่อมวลชน ทราบข่าวมาจากไหน เพราะท่านอยู่ต่างประเทศ ทั้งนี้ ท่านเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยก็สามารถมาช่วยหาเสียงได้ ไม่ผิดกฎหมาย แต่ท่านไม่มีแพลนมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เพราะเดินทางไปต่างประเทศตั้งแต่หลายวันก่อนหน้านี้แล้ว”
เมื่อถามว่า มีโอกาสที่เศรษฐาจะมาร่วมหาเสียงกับพรรคหรือไม่ แพทองธาร กล่าวว่า มีโอกาสแน่นอน ทุกคนที่เป็นสมาชิกของพรรค สามารถมาช่วยพรรคหาเสียงได้ เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า ได้คุยเรื่องการลงหาเสียงกันแล้วหรือยัง แพทองธาร กล่าวว่า พรรคเพื่อไทย แอบขอคำแนะนำของเศรษฐาทั้งเรื่องนโยบาย เศรษฐกิจ เพราะเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถ นอกจากนายเศรษฐา เรายังปรึกษานักวิชาการ ผู้มีความรู้ต่างๆ มากมาย เพื่อมาทำนโยบายที่ตอบโจทย์ประชาชนจริงๆ เราไม่สามารถทำแค่ในพรรคได้
เมื่อถามย้ำว่า หนึ่งในแคนดิเดตนายกฯ ก็คือเศรษฐา แพทองธาร กล่าวว่า ก็แถวๆ นี้อาจจะมีสักคน แต่เป็นใครก็ไม่ทราบเหมือนกัน
เมื่อถามว่า ส่วนตัวพร้อมเป็นแคนดิเดตนายกฯ หรือไม่ แพทองธาร กล่าวว่า “ส่วนตัวอิ๊งค์เองพร้อมนะคะ เพราะเราลงมาจุดนี้ อยากให้พรรคแลนด์สไลด์ เพื่อนำนโยบายที่สัญญากับประชาชนไว้ทำให้เกิดขึ้นจริงให้ได้ แต่เป้าหมายของอิ๊งค์ คือ นโยบายที่จะผลักดันให้ชีวิตประชาชนดีขึ้น ถ้าพรรคมีคนที่เหมาะสมกว่าอิ๊งค์ก็พร้อมถอยเหมือนกัน ยังอยู่ในส่วนการทำนโยบาย อยู่ในส่วนการคุยกับประชาชน ผลักดันให้สิ่งดีๆ เกิดขึ้นกับชีวิตของประชาชน อันนั้นคือเป้าหมายหลัก”
แพทองธาร กล่าวถึงกระแสข่าวพรรคเพื่อไทยจะจับมือกับพรรคพลังประชารัฐ พร้อมให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐเป็นนายกฯ ว่า หลักการของพรรคเพื่อไทย แน่นอนเราต้องหาเสียงให้แลนด์สไลด์ ทำนโยบายทุกอย่างที่สัญญาให้ได้สำเร็จ ถ้าจะจับมือกับพรรคร่วมรัฐบาลจริงๆ เราจะต้องจับมือกับคนที่ไม่ขัดกับประชาธิปไตย มีความคิดเห็นเรื่องนโยบายตรงกัน เพราะเราไม่สร้างนโยบายเพื่อให้ชนะเฉยๆ เราต้องการทำให้สำเร็จ
“ถ้าคนที่จะมาจับมือไม่เห็นด้วยกับนโยบาย หรือไม่เห็นด้วยกับประชาธิปไตย อันนั้นคงไม่ใช่แนวทาง” แพทองธาร กล่าว
เมื่อถามว่ามีความเป็นไปได้ หรือไม่ที่จะหารือกับ พล.อ.ประวิตร เพื่อจัดตั้งรัฐบาล ประเสริฐ กล่าวว่า ไม่เคยคุยกันเลย ขอปฏิเสธ ไม่เคยคุยกันเรื่องนั้น นอกจากไม่เคยคุยกันแล้ว หลักการเป็นไปตามที่ แพทองธารพูด เอาไว้หลังเลือกตั้ง
แพทองธาร กล่าวเสริมว่า เราต้องเคารพสิทธิของประชาชนก่อน อยากให้เคารพเสียงของประชาชนอย่างแท้จริงว่าประชาชนเลือกใครเป็นเสียงข้างมาก ก็ต้องได้จัดตั้งรัฐบาล
‘เพื่อไทย’ ตั้งป้อมค้านต่อวีซ่านายกฯ ‘เพื่อไทย’
จากนั้นประเสริฐ ยังกล่าวถึงกรณีที่ ส.ว.เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ ยกเลิกวาระนายกฯ 8 ปี ว่า พรรคเพื่อไทยไม่เห็นด้วยอยู่แล้ว เพราะเป็นการแก้เพื่อการสืบทอดอำนาจ ขัดหลักการประชาธิปไตย เข้าใจว่ามีความพยายามอยู่ เราเฝ้ามองอยู่
แพทองธาร กล่าวว่า ควรเป็นประชาธิปไตยให้ได้มากที่สุด เราปกครองประชาธิปไตย ควรเอาประชาชนเป็นที่ตั้ง แล้วมองตรงนั้นมากกว่า