ไม่พบผลการค้นหา
เจ้าหน้าที่ของทางการจีนจำเป็นจะต้องประกาศยกเลิกมาตรการควบคุมการระบาดโควิด-19 ในพื้นที่กวางโจวและฉงชิ่งของจีน หลังประชาชนเดินหน้าประท้วงต่อต้านมาตรการโควิดเป็นศูนย์ จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้าปราบปรามเมื่อช่วงคืนวันอังคารที่ผ่านมา (29 พ.ย.) นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจีนยังคงเดินหน้าปราบปรามผู้ประท้วง ภายใต้คำสั่งของหน่วยความมั่นคงของประเทศว่าผู้ประท้วงเป็น “กองกำลังของศัตรู”

ในช่วงบ่ายของเมื่อวานนี้ (30 พ.ย.) ทางการจีนได้ประกาศยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์กว่าครึ่ง ของพื้นที่เมืองกวางโจวอย่างปัจจุบันทันด่วน โดยเจ้าหน้าที่ระบุว่า ทางการได้ยกเลิก “คำสั่งควบคุมชั่วคราว” ต่างๆ และกำหนดพื้นที่ใหม่ให้เป็นพื้นที่ความเสี่ยงต่ำ ทางการจีนยังประกาศยุติการตรวจปูพรมหาเชื้่อแบบ PCR ในพื้นที่กวางโจวอีกด้วย

ประชาชนในพื้นที่ระบุว่า หลังจากที่ทางการจีนประกาศยกเลิกมาตรการโควิด-19 ภายในระยะเวลา 1 ชั่วโมง พวกตนพบเห็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ที่ประจำอยู่ตามตึกที่พักเร่งเดินทางออกนอกพื้นที่โดยเร็ว ในขณะที่มีประชาชนจำนวนหนึ่งเร่งเดินทางออกนอกพื้นที่ พร้อมกันกับการหิ้วกระเป๋าเดินทางจำนวนมาก “เพื่อหลบหนี” ออกจากเมืองที่ไม่รู้ว่าจะถูกล็อกดาวน์อีกครั้งเมื่อใด

นอกจากนี้ ทางการฉงชิ่งจะอนุญาตให้ผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งปฏิบัติตามเงื่อนไขบางประการกักตัวที่บ้านได้ ทั้งนี้ การผ่อนปรนมาตรการ ซึ่งถูกประกาศออกมา แม้ในตัวเมืองจะมีรายงานตัวเลขการติดเชื้อเพิ่มขึ้นกว่า 7,000 ราย จะยังไม่ขยายไปครอบคลุมในทุกเขต โดยในบางพื้นที่ รวมทั้งบางส่วนของไห่จูที่ผู้ประท้วงเข้าปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อคืนวันอังคาร ยังคงอยู่ภายใต้มาตรการโควิด-19 อยู่

ความไม่พอใจของประชาชนต่อกลยุทธ์ป้องกันโควิด-19 ที่เข้มงวดของรัฐบาลจีนในช่วง 3 ปีหลังการระบาดใหญ่ ได้จุดชนวนการประท้วงในเมืองต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งเป็นคลื่นมวลชนที่ต่อสู้ด้วยวิธีอารยะขัดขืนครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ขึ้นครองอำนาจเมื่อ 10 ปีที่แล้ว อย่างไรก็ดี ทางการจีนออกมาอ้างว่า การแสดงออกถึงสิทธิและเสรีภาพของประชาชนจีน สามารถกระทำได้ภายใต้กรอบกฎหมายของประเทศเท่านั้น

การยกเลิกมาตรการของทางการจีนในกวางโจวและฉงชิ่ง เป็นสัญญาณตั้งต้นที่สำคัญในการคลายการควบคุม โดยไม่ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก หรือระบบสาธารณสุขของจีนล้มสลาย ทั้งนี้ ประชาชนจีนแทบไม่มีภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติต่อโควิด-19 หลังจากทางการพยายามควบคุมการระบาดอย่างเข้มงวดมาเกือบ 3 ปี นอกจากนี้ จีนยังคงไม่อนุมัติการใช้วัคซีน mRNA ซึ่งพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพมากกว่าวัคซีนเชื้อตาย ที่ทางการจีนใช้ฉีดให้ประชาชน

เจ้าหน้าที่สาธารณสุขแห่งชาติจีนออกมากล่าวเมื่อวันอังคารว่า ทางการจีนจะตอบสนองต่อ “ข้อกังวลเร่งด่วน” ที่เกิดขึ้นจากสาธารณชน และควรบังคับใช้กฎคุมโควิด-19 อย่างยืดหยุ่นมากขึ้น ตามเงื่อนไขของแต่ละภูมิภาค ในขณะที่คณะกรรมาธิการกิจการการเมืองและกฎหมายส่วนกลางของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งดูแลการบังคับใช้กฎหมายภายในประเทศทั้งหมด ได้ประชุมกันเมื่อวันอังคาร โดยมีเจ้าหน้าที่รายหนึ่งกล่าวในที่ประชุมว่ามี “การแทรกซึมและการก่อวินาศกรรม” โดย “กองกำลังของศัตรู” และเรียกร้องให้ตำรวจปราบปรามการประท้วง

อย่างไรก็ดี นักเศรษฐศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเตือนว่า จีนจะไม่สามารถผ่อนปรนการควบคุมโควิด-19 ที่กีดกันนักเดินทางส่วนใหญ่ออกจากประเทศจีนได้ จนกว่าผู้สูงอายุหลายสิบล้านคนจะได้รับการฉีดวัคซีน ซึ่งหมายความว่าการควบคุมโควิดเป็นศูนย์โดยทางการจีนอาจจะยังไม่สิ้นสุดลงไปอีกเป็นปี


ที่มา:

https://www.theguardian.com/world/2022/nov/30/us-and-canada-urge-china-not-to-harm-zero-covid-protesters-amid-calls-for-crackdown?CMP=Share_iOSApp_Other&fbclid=IwAR2NMe0ewv59o8gBvBhq8-1j0lakUao7wNnP3jWZj_J7DydsgdwsfDyxrP4