ไม่พบผลการค้นหา
ทางการยูเครนเปิดเผยว่า กองทัพรัสเซียยังคงเดินหน้าเปิดฉากการยิงถล่มใส่โรงงานเหล็กอซอฟสตอล ฐานที่มั่นสุดท้ายของกองทัพยูเครนในเมืองมารีอูปอล ซึ่งถูกล้อมมาอย่างยาวนานกว่าหลายเดือน ถึงแม้ว่าจะมีประชาชนหลายร้อยรายกำลังติดอยู่ภายในเพื่อการอพยพออกนอกพื้นที่

กองทัพยูเครนเปิดเผยว่า หน่วยกำลังพลของตนต่อสู้อย่างหนักในวันที่สองของ “สมรภูมิอันนองเลือดที่แสนยากเย็น” หลังจากกองทัพรัสเซียเดินหน้าเปิดฉากยิงถล่มพื้นที่โรงงานเหล็กอซอฟสตอลในเมืองมารีอูปอล โดยล่าสุด กองทัพรัสเซียสามาถรุกคืบเข้าไปยัง “เขตแดนของโรงงาน” ได้แล้ว

มารีอูปอลยังคงพยายามอพยพประชาชนชาวยูเครนออกนอกพื้นที่มารีอูปอล โดยเฉพาะในพื้นที่ของโรงงานเหล็กอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางการถล่มยิงจากกองทัพรัสเซียที่ไม่มีวี่แววว่าจะหยุดยั้งลงง่ายๆ ทั้งนี้ จากการคาดการณ์เบื้องต้นพบว่าอาจมีประชาชนติดอยู่ในพื้นที่โรงงานเหล็กอซอฟสตอลอีกประมาณ 200 ราย โดยในจำนวนนั้นหมายรวมถึงเด็กด้วย

เดนิส โปรโกเปนโก ผู้บัญชาการประจำพื้นที่อซอฟของยูเครนเปิดเผยว่า “ผมภูมิใจกับทหารของผม ผู้ที่กำลังใช้ความพยายามอันเหนือมนุษย์ในการรับมือกับแรงกดดันจากศัตรู สถานการณ์ตอนนี้เป็นเรื่องที่ยากลำบากอย่างมาก” ทั้งนี้ โวโลดีเมอร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครนขอร้องให้สหประชาชาติยื่นมือเข้ามาช่วยในการอพยพประชาชนที่ยังติดอยู่ภายในโรงงานเหล็กอซอฟสตอลด้วย

“ทุกๆ คนสำคัญสำหรับเรา เราร้องขอความช่วยเหลือจากคุณเพื่อช่วยชีวิตพวกเขา” เซเลนสกีกล่าวกับ อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติที่เพิ่งเดินทางเยือนยูเครนเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ผ่านทางสายโทรศัพท์ โดยล่าสุด เซเลนสกีได้ขอบคุณไปยังเลขาธิการสหประชาชาติและองค์การกาชาดสากลที่ช่วยอพยพประชาชนออกมาจากโรงงานเหล็กได้ 100 คนในสัปดาห์นี้ ก่อนจะร้องขอให้สหประชาชาติ “ช่วยนำตัวผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดออกมาจากอซอฟสตอล”

อิรีนา เวเรสชุก รองนายกรัฐมนตรียูเครนเปิดเผยว่า ยังมีประชาชนอพยพออกมาจากพื้นที่อื่นๆ ของเมืองมารีอูปอลได้อีก 344 ราย จากบริเวณตะวันตกเฉียงใต้ของเมือง ก่อนที่จะเดินทางไปถึงซาปอริซเซีย เมืองทางตะวันออกเฉียงใต้ที่ยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของยูเครนเองได้อย่างปลอดภัยเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (4 พ.ค.) 

ล่าสุด รัสเซียสัญญาว่าตนจะทำการหยุดยิงในบริเวณเมืองมารีอูปอล เพื่อเปิดทางให้ประชาชนในโรงงานเหล็กอซอฟสตอลสามารถอพยพออกนอกพื้นที่ได้ตั้งแต่วันนี้ (5 พ.ค.) ไปจนถึงวันที่ 7 พ.ค. ทั้งนี้ กองทัพรัสเซียประกาศเปิดเส้นทางการอพยพออกนอกโรงงานเหล็กตั้งแต่เวลา 8.00-18.00 น. ตามเวลาของกรุงมอสโก โดยในช่วงเวลานั้น กองทัพรัสเซียสัญญาว่าตนจะหยุดทุกกิจกรรมของหน่วยทหาร และถอนกำลังออกมาอยู่ในระยะที่ปลอดภัย

จากการวิเคราะห์ล่าสุดพบว่า รัสเซียอาจสังหารประชาชนชาวยูเครนไปกว่า 600 ราย จากการทิ้งระเบิดใส่โรงละครประจำเมืองมารีอูปอล ซึ่งมีประชาชนชาวยูเครนหลบภัยอยู่ภายใน เหตุการณ์โจมตีดังกล่าวคาดว่าเป็นการโจมตีที่ส่งผลให้เกิดความสูญเสียครั้งใหญ่ภายในครั้งเดียว นับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากเข้ารุกรานยูเครนเมื่อ ก.พ.ที่ผ่านมา

รัสเซียยังคงเดินหน้าในความพยายามของการยึดพื้นที่มารีอูปอลให้ได้ เนื่องจากมารีอูปอลสามารถเป็นพื้นที่เชื่อมระหว่างภูมิภาคดอนบาส ซึ่งมีกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่รัสเซียคอยให้การหนุนหลังอยู่ เข้ากับพื้นที่ไครเมียที่รัสเซียยึดมาจากยูเครนและผนวกเข้ากับประเทศของตนเองตั้งแต่ปี 2557 มารีอูปอลยังเป็นเมืองท่าสำคัญของยูเครนที่เป็นศูนย์กระจายการส่งออกเมล็ดพันธุ์ เหล็กกล้า ไปจนถึงเครื่องจักรหนัก การเสียมารีอูปอลของยูเครนไปให้กับรัสเซียจึงอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจยูเครนในระยะยาวด้วยเช่นกัน


ที่มา:

https://www.bbc.com/news/world-europe-61327638

https://www.theguardian.com/world/2022/may/04/evacuees-tell-of-horror-weeks-inside-azovstal-steel-plant-mariupol-ukraine