ต่างประเทศ
พบศพหญิงตัวประกันอิสราเอล ใกล้โรงพยาบาลหลักในฉนวนกาซา
กองกำลังป้องกันอิสราเอล (IDF) กล่าวว่า ร่างของ เยฮูดิต ไวส์ หญิงพลเมืองอิสราเอลวัย 65 ปี ถูกพบในบ้านใกล้โรงพยาบาลอัลชีฟะห์ในเมืองกาซา ทั้งนี้ IDF ระบุว่าครอบครัวของเธอได้รับการแจ้งข่าวแล้ว และศพของเธอจะถูกส่งกลับไปยังอิสราเอล
ตามรายงานของกลุ่ม Bring Them Home Now ไวส์ถูกลักพาตัวจากบ้านของเธอในเมืองเบเอรี ใกล้ชายแดนฉนวนกาซา ทั้งนี้ เธออยู่ในระหว่างการฟื้นตัวจากโรคมะเร็งเต้านม เมื่อกลุ่มฮามาสเปิดฉากโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค. แต่เธอกลับขาดการรับยาเมื่อเธอถูกจับเป็นตัวประกันโดยกลุ่มฮามาส
Bring Them Home Now ระบุอีกว่า ไวส์ทำงานเป็นผู้จัดการห้องอาหารในโรงเรียนอนุบาลของนิคมเกษตรคิบบุตซ์ และเธอมีความเชี่ยวชาญด้านการพยาบาลก่อนจะเกษียณอายุ เธอยังเป็น "คุณย่าเต็มเวลาอันเป็นที่รัก" และรักวัฒนธรรม กีฬา การเดินทาง และการอบขนม ทั้งนี้ ชมูลิก สามีของเธอ ซึ่งเป็นแรบไบหรือหมอสอนศาสนายิว ถูกสังหารในการโจมตีของกลุ่มฮามาส
ในแถลงการณ์ IDF ระบุว่า มีการพบปืนไรเฟิลคาลาชนิคอฟและระเบิดมือจรวด อยู่ในบริเวณที่ร่างของเธอนอนอยู่ “น่าเสียดายที่เยฮูดิตถูกผู้ก่อการร้ายสังหารในฉนวนกาซา และเราไม่สามารถไปหาเธอได้ทันเวลา” แดเนียล ฮาการี โฆษกของ IDF กล่าวในการแถลงข่าวเมื่อเย็นวันพฤหัสบดี (16 พ.ย.) อย่างไรก็ดี ฮาการีไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่าเยฮูดิตถูกสังหารอย่างไร
จนถึงขณะนี้ มีตัวประกันเพียง 4 คนจาก 240 คนที่ถูกกลุ่มฮามาสลักพาตัวเมื่อเดือนที่แล้วเท่านั้น ที่ได้รับการปล่อยตัวแล้ว ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่อิสราเอลกล่าวว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1,200 คนในการโจมตีข้ามพรมแดนของฮามาสเมื่อวันที่ 7 ต.ค. จากฝีมือของมือปืนของฮามาสหลายร้อยคน ในขณะที่กระทรวงสาธารณสุขที่ดำเนินการโดยกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา ระบุว่ามีผู้เสียชีวิตแล้ว 11,400 รายในฉนวนกาซา นับตั้งแต่อิสราเอลเริ่มการโจมตีตอบโต้
โรงพยาบาลอัลชีฟะห์ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่ใหญ่ที่สุดของเมืองกาซา กลายเป็นจุดสำคัญของการสู้รบเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา และถูกทหารอิสราเอลบุกโจมตีเมื่อเช้าวันพุธ (15 พ.ย.) ทั้งนี้ DF อ้างว่ากลุ่มฮามาสใช้โรงพยาบาลเป็นศูนย์บัญชาการ และอิสราเอลได้ใช้เวลา 2 วันในการค้นหาหลักฐานต่อคำกล่าวอ้างดังกล่าว อย่างไรก็ดี กลุ่มฮามาสปฏิเสธว่าพวกเขาไม่มีศูนย์ปฏิบัติการในโรงพยาบาลอัลชีฟะห์
ปัจจุบันมีผู้ป่วยมากกว่า 650 ราย เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ 500 ราย และผู้พลัดถิ่นมากกว่า 5,000 ราย กำลังพักพิงอยู่ในโรงพยาบาลอัลชีฟะห์ โดย มูฮัมหมัด อาบู ซัลมิยา ผู้อำนวยการของโรงพยาบาลอัลชีฟะห์กล่าวว่า สภาพการณ์ ณ สถานที่เกิดเหตุ “น่าเศร้า” และโรงพยาบาลกำลังขาดออกซิเจนและน้ำ
ที่มา:
