ที่รัฐสภา ย่านเกียกกาย ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม ช่วงการหารือก่อนเข้าสู่การประชุม ส.ส.จำนวนมากหารือถึงปัญหาชาวบ้านแต่ละพื้นที่ และประเด็นสำคัญคือ การถวายสัตย์ปฏิญาณตนไม่ครบถ้วนของคณะรัฐมนตรี รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม
นายวิรัตน์ วรศสิริน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า มีประชาชนถามมาว่า นายกฯจะอยู่เฉยๆ ไม่รับผิดชอบการถวายสัตย์ปฏิญาณตนไม่ครบถ้วนแบบนี้ใช่หรือไม่ ซึ่งตนตอบไม่ได้จึงต้องนำมาหารือ เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ก็ยอมรับแล้วว่า ทำผิดรัฐธรรมนูญ ส่วนที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ฝ่ายกฎหมายระบุว่า สักวันหนึ่งจะรู้เอง ทำไมถึงไม่ควรพูด ประชาชนก็สอบถามว่า นี่คือการแอบอ้างอะไรหรือไม่
“นายกฯบอกว่าทำครบถ้วนตามปฐมบรมราชโองการแล้ว อย่าให้การเมืองมาทำประเทศชาติปั่นป่วน ดีหรือไม่ดีให้ไปตัดสินในการเลือกตั้งครั้งหน้า ซึ่งผมคิดว่า ท่านกำลังอ้างอะไรอยู่ จนมีคนสงสัยว่า นายกฯ จงใจถวายสัตย์ปฏิญาณผิดหรือไม่ เพื่อที่จะได้เป็นโมฆะ เป็นการเปิดโอกาสให้ คสช.กลับเข้ามามีอำนาจอีกครั้ง ถ้าเป็นอย่างนั้น ประชาชนเขาบอกว่า จะดำเนินคดีกับนายกฯ เพราะถือว่า เป็นการกระทำที่ได้อำนาจที่ไม่เป็นไปตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ผมได้ยินท่านประธานพูดมาตลอดตั้งแต่ผมยังหนุ่มๆว่า กฎหมายต้องใช้บังคับแก่ทุกคน ให้เท่าเทียมกัน จึงใคร่ขอให้ท่านประธานนำเรียนไปยังนายกฯ ให้รับผิดชอบต่อการกระทำด้วย” นายวิรัตน์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการประชุม ส.ส.ครั้งนี้ ถือเป็นการใช้อาคารรัฐสภา เกียกกาย หรือสัปปายะสภาสถานเป็นครั้งแรก ซึ่งบรรยากาศยังมีความขรุขระเล็กน้อย จากฝุ่นที่มาจากการก่อสร้างโดยรอบที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ส.ส.บางรายต้องสวมหน้ากากป้องกันระหว่างการประชุม ส่วนในห้องประชุมจันทราของส.ว.ที่ใช้เป็นการชั่วคราว ก็ต้องมีการเสริมเก้าอี้ และไมโครโฟน บริเวณด้านหน้าและหลังให้เพียงต่อจำนวนส.ส.ทั้ง 500 คน ขณะที่การเสียบบัตรลงคะแนนที่มีเพียง 350 เครื่อง ส.ส.ต้องสลับกันมาลง นายชวนได้ขอให้มีการซักซ้อมหลังช่วงหารือประมาณ 30 นาทีเพื่อให้ส.ส.ทุกคนมีความพร้อม