31 มี.ค. 2566 กรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวถึงความหวังปักธงในพื้นที่กรุงเทพฯ หลังจากเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. 33 เขต ว่า เราหวังให้เหมือนสมัย ปวีณา หงสกุล อดีต ส.ส.กทม. พรรคชาติพัฒนา ส่วนเราจะหวังกี่ที่นั้น เรามั่นใจในตัวผู้สมัคร เพราะเราเตรียมตัวกันมานาน
สำหรับการเปิดตัวครั้งต่อไป จะเป็นอย่างไรบ้าง นารณ์ เผยว่า เราลงพื้นที่กันอย่างต่อเนื่องนานเป็นปี และมีการตื่นตัวที่จะสมัครอย่างเป็นทางการ ทุกคนมีภารกิจหน้าที่พบปะประชาชน เป้าหมายเราไม่ใช่เพียงแค่กรุงเทพฯ เราต้องการนำการเมืองแก้ปัญหาเศรษฐกิจ สร้างโอกาส และแก้ปัญหาปากท้องให้กับประชาชน
เมื่อถามว่า พรรคชาติไทยพัฒนากล้าได้เตรียมแผนสำรองไว้หรือไม่ ถ้าวันที่ 7 เม.ย. ศาลปกครองพิจารณาการแบ่งเขต อาจจะมีการปรับเปลี่ยนแผนหรือไม่ สุวัจน์ ระบุว่า เป็นเรื่องของ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หากศาลมีคำวินิจฉัย ไม่ใช่เรื่องของพรรคชาติไทยพัฒนากล้า
สำหรับกลยุทธ์ของการหาเสียง มีการเตรียมแผนไว้หรือไม่ หากมีการเปลี่ยนเขตผู้สมัคร เพราะอาจกระทบต่อการรับรู้ของประชาชนในพื้นที่ สุวัจน์ ย้ำว่า เปิดตัวผู้สมัครครบแล้วทั้ง 33 เขต ผ่านการทำไพรมารีโหวตเรียบร้อย ไม่มีผลกระทบอะไร ถ้ามีคำวินิจฉัยที่มีความจำเป็นจะต้องปรับรูปแบบ ในส่วนของพรรคไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
อีกทั้ง กกต. ทราบอยู่แล้ว การเลือกตั้งครั้งนี้ใช้บัตร 2 ใบ ผู้สมัครคนละเบอร์ แต่พรรคคือเบอร์เดียวกัน จะต้องประชาสัมพันธ์ แต่ในส่วนของพรรคได้ปรับรูปแบบการประชาสัมพันธ์ในสื่อต่างๆ ให้สอดคล้องกับกติกาและเข้าใจง่าย ไม่ให้เกิดความสับสน และ กกต. จะมีหน้าที่ในการประชาสัมพันธ์ภาคใหญ่ รอวันที่ 3 เม.ย. ว่าผู้สมัครจะได้เบอร์อะไร วันที่ 4 เม.ย. พรรคจะได้เบอร์อะไร ทุกอย่างไม่น่ามีประเด็น
ในการเปิดตัว ส.ส.บัญชีรายชื่อ และแคนดิเดตนายกฯ คาดว่าจะมีความชัดเจนเมื่อไหร่นั้น สุวัจน์ กล่าวว่า หากดูตามปฏิทิน แบบบัญชีรายชื่อ จะเปิดวันที่ 4 เม.ย. สองวันก็คงจะเรียบร้อย
“ตนยังบอกไม่ได้ว่าใครจะเป็นแคนดิเดตนายกฯ ต้องดูการหารือจากกรรมการบริหารพรรค ในขั้นตอนสุดท้าย ส่วนใครจะอยู่ในปาร์ตี้ลิสต์ ไม่มีปัญหา เราก็ทำตามกติกาไม่เกินสามคนที่พรรคชาติไทยพัฒนากล้า จะเสนอ แคนดิเดตนายกฯ”
สุวัจน์ ย้ำอีกว่า เรามั่นใจหัวหน้าพรรคและรองหัวหน้าพรรค คัดเลือกผู้สมัครที่มีคุณภาพเหมาะสม และนโยบายของพรรคเกี่ยวข้องกับคนกรุงเทพฯ ตอบโจทย์โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ การลงทุน การท่องเที่ยว และสิ่งแวดล้อม
กรณ์ กล่าวถึงว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. ที่เปิดตัวครั้งนี้ว่า เป็นการรวมตัวของคนรุ่นใหม่ที่มีประสบการณ์ และประสบความสำเร็จในอาชีพที่หลากหลาย ความตั้งใจของพวกเราทุกคนอยากให้การเมืองดีขึ้น การสร้างการเมืองที่เปลี่ยนแปลงต้องอาศัยเลือดใหม่ ที่นำเสนอความคิดและวิธีการใหม่ๆ ซึ่งพรรคตั้งเป้าไว้แต่แรกว่าเราจะเป็นพื้นที่รวมของนักการเมืองที่มีประสบการณ์ และนักการเมืองทุกรุ่นที่มีประสบการณ์ในด้านอื่น มาช่วยเหลือสังคม