สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และแกนนำกลุ่มสามมิตร กล่าวถึงกระแสข่าว ส.ส.ไหลออกจากพรรค พปชร. จำนวนมากกว่า 20 คน ว่า ตนยังไม่ได้พบใคร เพราะไปทำภารกิจที่ต่างประเทศมาตั้งแต่วันที่ 22 ก.ย. กลับมายังไม่ได้ปฏิบัติงาน เพราะมีอาการป่วย 

ส่วนกระแสข่าวที่สามมิตรจะไปพรรคเพื่อไทยนั้น สมศักดิ์ ยืนยันไม่เป็นความจริง ขณะที่ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ไปร่วมงานวันเกิดผู้ใหญ่ของพรรคการเมืองหนึ่ง เป็นเพียงข้อสังเกตหนึ่งว่าอาจจะเป็นการกระทำอะไรอย่างหนึ่งที่ไม่ได้เป็นตามรูปแบบปกติของพรรคการเมือง 

เมื่อถามว่า ต้องมีการพูดคุยในพรรคฯ ถึงกระแสการย้ายออกหรือไม่ สมศักดิ์ กล่าวว่า ตนยังไม่ได้เจอใครเลยในรอบ 20 วัน สำหรับปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นตนกำลังมองดูอยู่ แต่ยังไม่ได้คิดและพูดคุยกับใคร คงต้องรอข้อมูลจากหลายหลายฝ่าย อาจมีการคิดอะไรกันบ้างคงทักท้วงและพูดคุยกันได้ 

เมื่อถามย้ำถึงความชัดเจนของกลุ่มสามมิตร สมศักดิ์ กล่าวว่า "สามมิตรไม่คิดไปไหนครับ ยังยืนยันอยู่พลังประชารัฐ" 

เมื่อถามกรณีพรรคเพื่อไทยแสดงท่าทีพร้อมรับกลับ สมศักดิ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้คิด และไม่ได้เจอใคร 

เมื่อถามอีกว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นหัวหน้าและผู้บริหารพรรค พปชร. ควรเรียก ส.ส.มาพูดคุยหรือไม่ สมศักดิ์ กล่าวว่า ใครสนิทกับใครก็ควรจะคุยกัน และให้รู้ให้ชัดเจน ว่าใครคิดจะยังอยู่และใครคิดจะไม่อยู่

เมื่อถามว่า ยังมั่นใจว่าพรรคพลังประชารัฐ จะเป็นรัฐบาลในครั้งหน้าหรือไม่ ถึงยังอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ สมศักดิ์ กล่าวว่า ตนมั่นใจว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม สามารถควบคุมสถานการณ์และทำงานได้

เมื่อถามย้ำว่า เป็นเพราะมีเสียง ส.ว. 250 เสียงหรือไม่ สมศักดิ์ กล่าวว่า อย่าไปคิดมาก 

เมื่อถามว่า กรณี พล.อ.ประยุทธ์ สามารถเป็นนายกฯได้แค่อีกสองปีจะเป็นปัญหาหรือไม่ เพราะจะทำให้หาเสียงลำบาก สมศักดิ์ กล่าวว่า ก็แล้วแต่ ตนคิดว่าไม่เป็นปัญหา เมื่อถามย้ำว่ายังเดินไปต่อได้ใช่หรือไม่ สมศักดิ์ กล่าวว่า ครับ

เมื่อถามว่า พรรคพลังประชารัฐจะส่งแคนดิเดตครบ 3 รายชื่อใช่หรือไม่ สมศักดิ์ กล่าวว่า คงต้องพูดคุยกันในพรรค

พร้อมหนุน​ 'ประยุทธ์​' เป็นนายกฯต่อ

ด้าน สุริยะ​ จึงรุ่งเรืองกิจ​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และแกนนำกลุ่มสาม กล่าวถึงจุดยืนของกลุ่มสาม ถึงทิศทางทางการเมืองในอนาคต ว่า ตลอดระยะเวลาที่ทำงานในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เกือบ 4 ปี ได้รับความกรุณาจาก พล.อ.ประยุทธ์​ จันทร์โอชา​ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม​ ด้วยดีมาตลอด​ รวมไปถึงมีการสนับสนุนงบกลางนโยบาย ต่างๆในการช่วยเหลือประชาชน​ และมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ต่อประชาชน ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ทำให้​ และตนก็มีความพึงพอใจ​ อย่างไรก็แล้วแต่ตนจึงต้องอยู่กับพรรค​พลังประชารัฐ​ และยืนยันว่าจะไม่ไปไหน​ รวมทั้งกลุ่มสามมิตรก็ไม่ไปไหน​ และได้มีการพูดคุยกันภายในกลุ่มสามมิตรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว​

เมื่อถามว่า ยืนยันเฉพาะตอนนี้หรืออนาคตจะไม่ไปไหน สุริยะ​ กล่าวว่า ตนขอยืนยันว่าจะไม่ไปไหน และเลือกตั้งครั้งหน้าก็จะยังอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ

ส่วนขณะนี้กระแสของพรรคพลังประชารัฐนั้นตกต่ำแกนนำพรรคจะช่วยกันอย่างไร สุริยะ​ ระบุว่า​ ในสภาวะที่รัฐบาลเจอทั้งโควิดและสงครามรัสเซีย​-ยูเครน​ และรัฐบาลสามารถเดินหน้ามาได้จนถึงจุดนี้​ ตนเชื่อว่าประชาชนจะให้การสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์​ ให้สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง

ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตหรือไม่ ว่าเมื่อมีกระแสข่าวการย้ายพรรคกลุ่มสามมิตรมักถูกพุ่งเป้า สุริยะ​ กล่าวว่า​ เป็นเรื่องปกติที่คาดเดากันไป ตนจึงต้องการออกมายืนยันให้เกิดความชัดเจน​ ส่วนหากกลุ่มอื่นย้ายหมดกลุ่ม 3 มิติจะย้ายออกจากพรรคพลังประชารัฐหรือไม่​ ตนคงไปบังคับกลุ่มอื่นไม่ได้ แต่กลุ่มสามมิตรจะยังอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ

เมื่อถามว่า มีการยืนยันออกมาเช่นนี้ พล.อ.ประยุทธ์จะต้องเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐอันดับ 1 ใช่หรือไม่ สุริยะ​ กล่าวว่า​ เอาเป็นว่ากลุ่มสามมิตร​ ขอสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์​ เป็นนายกรัฐมนตรี​  

เมื่อถามถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี มีการหารือในที่ประชุมครมหรือไม่นั้น สุริยะ​ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี