สุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่สำนักงานอัยการสูงสุดตอบคำถามกองทัพเรือ เกี่ยวกับโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำว่า หลังจากที่อสสตอบกลับมา เราพอทราบแนวทางแล้ว ฉะนั้นเพื่อการได้ประโยชน์สูงสุด กลับกองทัพประเทศ และประชาชน ตนจะคิดว่าควรมีหลายฝ่ายมาช่วยกันคิดจะดีที่สุด ดังนั้นจึงจะมีการตั้งคณะกรรมการ ขึ้นมาเพื่อศึกษาหาทางเลือกที่ดีที่สุด เพิ่งมาจากหลายฝ่าย ประมาณ 13 -15 คน อาทิ กองทัพเรือ โดยอาจเป็นผู้บัญชาการ สัก 2-3 คน รวมถึงฝ่ายจากกระทรวงกลาโหม และคณะทำงานนโยบายของตน คือที่ปรึกษารัฐมนตรี ซึ่งจะเป็นประธานคณะกรรมการชุดดังกล่าว รวมถึงจะมีนักวิชาการจากสถาบันวิชาการป้องกันประเทศ หรือ วปอ. รวมถึงอัยการสูงสุด เพื่อดูในเรื่องของข้อกฎหมาย และมีตัวแทนกระทรวงการคลังมาดูเรื่องงบประมาณ รวมถึง ยุทธพงษ์ จรัสเสถียร ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และตัวแทนจากฝ่ายค้าน โดยอาจจะมีการเชิญ วิโรจน์ ลักขณาอดิศร และ รังสิมันต์ โรม จากพรรคก้าวไกล ซึ่งคาดว่าภายในวันพรุ่งนี้จะสามารถตั้งได้
ส่วนรายละเอียดที่อัยการสูงสุดตอบกลับมานั้น สุทิน ระบุว่า เปลี่ยนแปลงก็ได้ แต่จะเปลี่ยนแปลงก็ได้แต่ต้องเป็นมติของครม. ซึ่งอาจจะเป็นแนวทางเดิม คือเรือดำน้ำจากจีน หรือเรือที่ผลิตจากยี่ห้ออื่น หรืออาจเปลี่ยนเป็น เรือฟริเกตที่สามารถทำได้แต่ต้องผ่านมติของครม. ฉะนั้นหากคณะกรรมการศึกษาเสร็จ ก็จะนำมาเสนอต่อครม.ต่อไปโดยกรอบระยะเวลาการศึกษาประมาณ 30 วัน ซึ่งคาดว่าหลังจากนี้ไม่เกิน 2 เดือนจะเห็นถึงแนวทาง ส่วนฝ่ายค้านนอกจากพรรคก้าวไกลจะมีคนอื่นหรือไม่ก็แล้วแต่จะส่งมา ซึ่งสามารถเพิ่มได้ แต่ตนคิดว่าเฉพาะพรรคก้าวไกลก็น่าจะเพียงพอ
ทั้งนี้ สุทิน ยังระบุอีกว่าขณะนี้ ยุทธพงษ์ตอบรับเข้าร่วมคณะกรรมการชุดดังกล่าวแล้ว แต่ขณะนี้เหลือเพียงการประสานกับ วิโรจน์ซึ่งก็คาดการณ์ว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร และจากที่เคยทาบทาม รังสิมันต์ ก็ระบุว่าพร้อม