วันที่ 19 ธ.ค. ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าวถึงกรณีที่ นายกรัฐมนตรี ยื่นหนังสือลาพักร้อนเป็นจำนวน 3 วันว่า ถือเป็นเรื่องธรรมชาติ ข้าราชการทุกคนสามารถลาพักร้อนได้ กรณีของนายกรัฐมนตรี เนื่องจากลูกชายเดินทางกลับจากประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้ทำงานอยู่ที่นั่น และได้มาพบกันที่ประเทศญี่ปุ่น จึงเดินทางกลับมาพร้อมกัน และจะได้อยู่กับครอบครัวพร้อมหน้าพ่อแม่ และลูก 

นายกรัฐมนตรีจึงขอลาพักร้อน 2-3 วัน ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา และยังสามารถทำงานปรึกษาหารือกันได้ และก็ได้มีการมอบหมายงานให้กับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง และยังสามารถปรึกษาหารือผ่านทางออนไลน์กันได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยทำมาแล้ว ในช่วงเดินทางประชุมต่างประเทศ

แม้ว่าจะลาพักร้อน ก็สามารถทำงานได้ และได้มอบหมายงานให้คนที่รักษาการณ์ทำงานแทนได้ ซึ่งกรณีนี้ นายกรัฐมนตรีลาอยู่ในประเทศ จึงคิดว่าไม่น่ามีปัญหา ทุกคนสามารถลากิจ ลาพักร้อน ลาป่วยได้ ถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ได้แปลกปลอม และไม่ได้มีปัญหาอะไร โดยถือว่าเป็นไปตามระเบียบ โดยนายกรัฐมนตรีลาพักร้อน หากมอบให้ตนเองทำหน้าที่แทนก็มีความพร้อม

รทสช.ยื่นร่างเสริมสร้างสันติสุข ประกบเพื่อไทยได้

ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึง พ.ร.บ.เสริมสร้างสันติสุข ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ประกบคู่กับพ.ร.บ.นิรโทษกรรมของพรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำรัฐบาล ภูมิธรรม กล่าวว่า ตนเองยังไม่เห็นร่างของรวมไทยสร้างชาติ ซึ่งเวลานี้แต่ละพรรคมีสิทธิที่จะเสนอกฎหมายอะไรก็ได้ ซึ่งกระบวนการเสนออยู่ 2 ทาง คือ ผ่านทางสภา จะดูในรายละเอียด ต้องคุยกันในวิปรัฐบาลว่ากฎหมายมีความเหมือนกัน สามารถไปด้วยกันได้อย่างไร ขณะเดียวกัน พรรคและสภา หากคุยกันเรียบร้อยต้องมาคุยกับรัฐบาลต่อ ว่ารัฐบาลมีอะไรขัดข้องหรือไม่ รัฐบาลมีอะไรที่เห็นต่างกันตรงไหน ขณะนี้อยู่ในกระบวนการ และยังมีกฎหมายอีกหลายฉบับที่แต่ละพรรคกำลังจะเสนอเข้ามา ซึ่งต้องรอให้แต่ละพรรคเสนอมา หากเป็นกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับนโยบายรัฐบาลก็ต้องคุยกัน 

เมื่อถามว่าเป็นเนื้อหาเดียวกันกับพรรคเพื่อไทย จะใช้ของพรรคเพื่อไทย หรือประกบไปด้วยกันได้ ภูมิธรรม ระบุว่า ยังตอบไม่ได้ว่าเนื้อหาเหมือนกันหรือไม่ ต้องนำร่างจริงมาดู

เมื่อถามย้ำว่า เนื้อหาของพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่รวมคดีมาตรา 112 ไม่เอาโทษอาญา และคดีทุจริต ภูมิธรรม ระบุว่า ทุกพรรคมีสิทธิเสนอ เช่น พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เพื่อไทยก็มองว่า ต้องไม่เป็นประเด็นที่สร้างปัญหาหรือไม่ ถ้ามีข้อยุติก็คุยกัน แต่บางพรรคก็ไม่เห็นด้วยรวมถึงคดีมาตรา 112 สุดท้ายหากเป็นร่างรัฐบาลต้องมาคุยกันทั้งหมด ส่วนพรรคร่วมจะเสนอกฎหมายประกบในทางกฎหมายก็สามารถทำได้ ส่วนกฎหมายนิรโทษกรรมของพรรคเพื่อไทย เมื่อวานได้มีการพูดคุยกับฝ่ายกฎหมาย

ส่วนเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อทำประชามติ โดยช่องทางจะต้องเสนอศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาดนั้น ภูมิธรรม กล่าวว่า การแก้รัฐธรรมนูญขณะนี้ ความชัดเจนต้องรอวันที่ 25 ธันวาคม เพราะเป็นการประมวลสรุปจาก สส. และ สว. ในสภาทั้งหมด รายละเอียดที่ไปรับฟังความเก็นจากภาคส่วนต่างๆ ซึ่ง นายนิกร จำนงค์ เลขาคณะกรรมการศึกษาทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญ ประสานมาจะรวบรวมประชุมสรุป 25 ธันวาคมนี้ ถ้าประชุมสรุปชัดเจนว่าอย่างไร เห็นพร้อมเป็นเอกภาพ หรือแตกต่าง ก็จะนำผลสรุปมาเสนอ ครม.อีกครั้ง ว่า ครม.จะมีมติเห็นอย่างไร เพราะว่าหากยื่นไปในขณะที่ยังมีขัอขัดแย้ง ถ้าจะถามศาลว่าทำได้หรือไม่ เป็นไปได้ว่า ศาลอาจจะไม่รับวินิจฉัย ย้ำว่าต้องขอดูข้อเสนอในวันที่ 25 ธันวาคมนี้ หากไม่ทันก่อนปีใหม่ จะนำเสนอที่ประชุม ครม.หลังปีใหม่ต่อไป