กองทุนช่วยชาวนา กับ ธ.ก.ส.
เปิดตัวอย่างเป็นทางการสำหรับกองทุนช่วยเหลือชาวนาของ ธ.ก.ส. เพื่อรับเงินบริจาคและเงินสมทบจากประชาชน นำไปช่วยเหลือชาวนาที่ยังไม่ได้รับเงินในโครงการรับจำนำข้าว โดยยอดบริจาครวม 3 วันทะลุ 217 ล้านบาท
นาวาตรีวรวิทย์ เตชะสุภากูร อดีตข้าราชการทหารเรือ บริจาคเงิน 2,500 บาท เข้ากองทุนช่วยเหลือชาวนาในกองทุนที่ 1 ซึ่งเป็นการบริจาคแบบให้เปล่า แม้เป็นเงินเพียงเล็กน้อย ไม่มากมายนัก แต่เชื่อว่า ความร่วมมือเล็กๆ จะช่วยคลายทุกข์ให้ชาวนาได้
เช่นเดียวกับนางภาวิณี ตรีรานุวัฒน์กุล ถอนเงินสดออกจากธนาคารออมสิน 20,000 บาท มาใส่กองทุนที่ 2 ซึ่งไม่มีผลตอบแทน และเตรียมถอนเงินที่อยู่ระหว่างการครบระยะเวลาไถ่ถอนอีกก้อน มาสมทบเพิ่มเติม
ผู้จัดการ ธ.ก.ส. ยังนำเงินในบัญชีส่วนตัว 1 ล้านบาทร่วมบริจาค รวมถึงหน่วยงานอื่นๆ สมทบเข้ากองทุนแบบคืนต้น ไม่มีผลตอบแทน เช่น สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย กระทรวงอุตสาหกรรม จำนวน 3.5 ล้านบาท โรงงานยาสูบ 1 ล้านบาท และสหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น อีก 1 ล้านบาท ไม่รวมหน่วยงานอื่นๆ ที่สนใจเช่นกัน
วิธีช่วยเหลือชาวนา มีให้เลือก 3 กองทุน ได้แก่ กองทุนที่ 1 เป็นเงินบริจาค ไม่คืนเงินต้นทุน ไม่มีผลตอบแทน ผ่านบัญชีเลขที่ 0200-3-3477-582 ธ.ก.ส. สาขาบางเขน หรือ โอนเงินผ่านตู้เอทีเอ็ม และโอนผ่านระบบอินเทอร์เน็ต
กองทุนที่ 2 สมทบเข้ากองทุน โดยคืนต้น แต่ไม่มีผลตอบแทน ตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป และกองทุนที่ 3 ชนิดคืนต้น และมีผลตอบแทนบริจาคตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป อัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 0.63 ต่อปี รับบริจาคและเงินสมทบ จนถึง 30 มิถุนายนนี้
การสมทบเงินเข้ากองทุนที่ 2 และ 3 ต้องผ่าน ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ โดย ธ.ก.ส.จะออกหลักฐานการบริจาคเป็น "ใบสมทบกองทุน" เพื่อเป็นหลักฐานในการขอรับเงินคืน เมื่อสิ้นสุดโครงการในวันที่ 31 ธันวาคม 2557
ทั้งนี้ การสมทบเงินทั้ง 3 กองทุน ไม่สามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีได้ เพราะเป็นโครงการเร่งด่วนระยะสั้น
กองทุนช่วยเหลือชาวนา ได้เปิดรับเงินบริจาค ตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ มียอดบริจาคและสมทบแล้ว 217 ล้านบาท โดยประชาชนร้อยละ 80 นิยมบริจาคแบบประสงค์รับคืนเงินต้น แต่ไม่รับผลตอบแทน ที่เหลือร้อยละ 20 เป็นการบริจาคแบบให้เปล่าและ สมทบแบบรับผลตอบแทน
ธ.ก.ส. คาดว่าภายในวันที่ 10 มีนาคมนี้ จะได้รับเงินบริจาคและเงินสมทบ 1 พันล้านบาท ซึ่งเป็นเงินก้อนแรกที่ ธ.ก.ส. จะนำไปจ่ายให้แก่ชาวนา ตามลำดับใบประทวนที่ขึ้นทะเบียนไว้ โดยกองทุนมีเป้าหมายระดมเงินช่วยเหลือให้ได้ 2 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะช่วยเหลือชาวนาได้ไม่น้อยกว่า 2 แสนราย เมื่อเทียบกับมูลค่าข้าวในสต็อกของรัฐบาลกว่า 1.2 แสนล้านบาท