ญี่ปุ่นเริ่มต้นฤดูล่าวาฬอย่างเป็นทางการในวันนี้ ซึ่งเป็นการล่าเชิงพาณิชย์ครั้งแรกในรอบ 33 ปี
ญี่ปุ่นเริ่มล่าวาฬเชิงพาณิชย์เป็นครั้งแรกในรอบ 33 ปี หลังจากประกาศแบนการล่าเชิงพาณิชย์ในปี 1986 และคงไว้แต่การล่าเพื่อการวิจัยเท่านั้น ต่อเนื่องจากการตัดสินใจลาออกจากคณะกรรมการการล่าวาฬระหว่างประเทศ หรือ IWC เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งเท่ากับเป็นการประกาศว่าญี่ปุ่นจะไม่ยอมรับข้อกำหนดในการล่าวาฬเชิงอนุรักษ์ขององค์กรอีกต่อไป
เดิมที ญี่ปุ่นถูกกำหนดโดย IWC ให้เลิกล่าวาฬเชิงพาณิชย์ และไม่จับวาฬขนาดใหญ่ไม่ว่าจะในกรณีใด โดยยังสามารถจับวาฬขนาดเล็กที่ว่ายเลียบชายฝั่งได้ อย่างไรก็ตาม ญี่ปุ่นมักหาช่องโหว่ของข้อตกลงดังกล่าวและดำเนินการล่าวาฬต่อไป โดยอ้างว่าเป็นการล่าเพื่อการวิจัยมาโดยตลอด จนกระทั่งลาออกจาก IWC อย่างเป็นทางการในที่สุด
ทั้งนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นอ้างว่ามีประชากรวาฬเพียงไม่กี่ประเภทเท่านั้น ที่เข้าข่ายใกล้สูญพันธุ์ การล่าวาฬตามธรรมเนียมที่ตกทอดมาจึงเป็นกิจกรรมที่สมเหตุสมผลแล้ว ซึ่งโควตาการล่าวาฬของกรมประมงญี่ปุ่นปีนี้ จำกัดเพดานอยู่ที่ 227 ตัว ในจำนวนนี้แบ่งเป็น วาฬมิงก์ 52 ตัว , วาฬเซ 25 ตัว และวาฬบรูด้า 150 ตัว
การถอนตัวจาก IWC ของญี่ปุ่นถูกตำหนิอย่างหนักจากนักต่อต้านการล่าวาฬทั่วโลก แต่ในทางกลับกันก็ได้รับการยกย่องจากชุมชนนักล่าวาฬในประเทศ ที่หลายเมืองริมฝั่งทะเลทำการประมงล่าวาฬมาเป็นเวลาร่วม 400 ปี ตลอดจนพยายามรักษาธรรมเนียมการแล่และปรุงเนื้อวาฬแบบดั้งเดิมเอาไว้ โดยเมนูในบางท้องถิ่นรวมถึง ซาชิมิเนื้อวาฬ นักเก็ตวาฬทอดกรอบ และเบคอนวาฬ