รายการ Talking Thailand ประจำวันที่ 24 เมษายน 2563
“อ.พิชญ์” ถาม “ทวีศิลป์” ตกลงเป็นศูนย์บริหารโรค หรือ บริหารสถานการณ์โควิด ออกมาแถลงรายวัน แต่ไม่มีข้อมูลส่วนอื่นที่เกี่ยวข้อง นอกจากรายงานแค่ตัวเลข และขู่ประชาชน “อ.วิโรจน์” ท้วง ไม่ได้ให้เปิดเมืองทั้งหมด แต่เมื่อมีข้อมูลก็ต้องพิจารณาให้เศรษฐกิจเดินได้ วอนอีก “นักเศรษฐศาสตร์” ต้องออกมาบอกตัวเลขความเสียหาย เมื่อเทียบกับค่ารักษา ที่ “โฆษก ศบค.” บอกว่ารัฐต้องจ่ายคนละล้าน
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. กล่าวถึง ปัจจัยและมาตรการที่ทำให้ประเทศไทยควบคุมการติดเชื้อที่มีประสิทธิภาพเมื่อเทียบต่างประเทศ ว่า มาตรการของเรามีหลายส่วนประกอบกัน โดยเฉพาะชุดข้อมูลที่นำมาบอกกล่าวในแต่ละวัน ทำให้ประชาชนได้รับทราบและเข้าใจสถานการณ์มากขึ้น ดังนั้น การสื่อสารเป็นเรื่องที่สำคัญ รวมทั้งในต่างจังหวัดสามารถควบคุมและสั่งการให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันแก้ไข และเรามีระบบการธารณสุขที่ดีมากว่า 100 กว่าปีที่วางไว้ได้ผลดีมาก และดูแลตั้งแต่ระดับล่างสุด คือ อสม. และที่สำคัญประชาชนร่วมมือกัน เพราะเรื่องนี้ไม่ได้เป็นเรื่องของคนใดคนหนึ่งแต่เป็นเรื่องของทุกคนที่จะต้องช่วยกันถึงจะสำเร็จ
การจะยกเลิกหรือคลายล็อกหรือไม่ เราต้องปรึกษาหารือกันรอบด้าน เมื่อประกาศออกไปแล้วต้องไม่ส่งผลกระทบ มากเกิน และมีการแพร่ระบาดของเชื้ออีก สิ่งเหล่านี้เราต้องมาหารือร่วมกับภาคเอกชนด้วย จากนั้นนายกฯนำเข้าครม. และนายกฯเป็นคนประกาศ เพราะรักษาผู้ป่วย 1 รายเราต้องใช้เงินถึง 1 ล้านบาท ซึ่งถือว่า ใช้งบประมาณมาก เพราะฉะนั้นเราต้องการรักษาคนให้รอดก่อน เชื่อว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นขอให้เรารักสามัคคีกัน เพื่อที่จะรอดไปด้วยกัน นพ.ทวีศิลป์ ได้ฝากว่า New Norm หรือชีวิตวิถีใหม่ ขอให้ท่านไปออกแบบชีวิต ทั้งส่วนตัว ครอบครัว และการงานของท่านว่าจะเป็นอย่างไร จะได้มีชีวิตอย่างมีความสุข
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวถึงมาตรการเคอร์ฟิว ว่า การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตั้งแต่เวลา 22.00 น. ของวันที่ 23 เม.ย. ถึงเวลา 4.00 น. ของวันที่ 24 เม.ย. หลังจากปรับลดจุดตรวจ แต่เพิ่มสายตรวจตามบ้านและชุมชน พบการออกนอกเคหะสถาน 482 ราย ลดลง 135 ราย การชุมนุมมั่วสุม 39 ราย ลดลง 67 ราย ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ และสายตรวจ ที่ช่วยกันลาดตระเวน และดูแลความเรียบร้อยของประชาชน รวมถึงครอบครัวประชาชนที่ให้ความร่วมมือ ตัวเลขการชุมนุมมั่วสุม 39 ราย คือเลขที่ต่ำที่สุดเท่าที่เห็นมาใน 2 สัปดาห์นี้ ขอขอบคุณประชาชนที่ให้ความร่วมมือ
ทั้งนี้ ตัวเลขผู้ชุมนุมมั่วสุมจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่า กลุ่มคนที่ถูกจับกุมจากการชุมนุมมั่วสุม มากที่สุด คือ กลุ่มที่อายุไม่เกิน 18 ปี และ 19 - 30 ปี โดยเฉพาะผู้ชายมีการกระทำผิดมากกว่าผู้หญิง รวมยอดทั้งมีการชุมนุมตั้งแต่วันที่ 3 - 22 เม.ย. จำนวน 1,972 ราย ผู้ชาย 1,352 ผู้หญิง 620 ราย ขอให้คนในครอบครัวช่วยตักเตือนโดยกลุ่มอายุวัยรุ่นและวัยทำงานเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงที่ติดเชื้อที่เราบอกกันมากที่สุด เป็นกลุ่มก้อนเดียวกับกลุ่มที่กระทำผิดกฎหมายด้วย ขอให้ทุกท่านที่ดูแลคนกลุ่มนี้อยู่ หรือคนกลุ่มนี้เองก็ช่วยกันดูแลตัวเองด้วย