รายการ Talking Thailand ประจำวันที่ 11 พฤษภาคม 2563

นักวิเคราะห์ Talking Thailand ตั้งคำถามรอบที่ร้อย “โควิด” จะพุ่งเป้าทำคนตั้งก๊วนดื่มเหล้า เล่นการพนัน ประพฤตินอกศีลธรรมไพ่ อย่างนั้นหรือ ขณะที่ ศบค.ยังพยายามรายงานตัวเลขคนฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ “ใบตองแห้ง” ตั้งคำถาม ตัวเลขคนฝ่า พ.ร.ก. ที่ติดโควิดมีไหม? วอนรัฐเลิกตรึงคนไว้กับความกลัว และรอฟังคำสั่ง

“คำผกา” แถมอีกชุดใหญ่ ไหนว่าตั้ง ศบค. มาเพื่อลดขั้นตอน แต่นยังทำงานช้า

พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการ สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เปิดเผยถึงกรณี ให้สำนักข่าวกรอง รวมถึง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) สำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่องผลกระทบเกิดจากการประกาศ พรก.ฉุกเฉิน ใน 2 ห้วง คือ  คือ ระยะที่1 เพื่อดูมาตราการผ่อนปรนในระยะที่ 2 และ ระยะที่ 2 คือ ปลายเดือน พ.ค. สอบถามเรื่องให้ยกเลิก พรก.ฉุกเฉิน หรือ ยังคงไว้

พล.อ.สมศักดิ์ กล่าวว่า ความจริงแล้วไม่ใช่เฉพาะสองหน่วยงานดังกล่าว แต่ยังมีหน่วยงานอื่นๆทั้งของรัฐ และเอกชน ดำเนินการจัดทำโพลล์สำรวจความเห็นของประชาชน ทั้งนี้ยืนยันว่าความคิดเห็นที่ได้จากการสำราจ ความต้องการของประชาชนเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ต้องนำมาพิจารณาในที่ประชุม ศูนย์บริหารฯ โควิด- 19 (ศบค.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็น ผอ.ศบค. แต่ยังไม่ใช่ปัจจัยหลักที่จะต้องยกเลิก พรก.ฉุกเฉิน หรือ ยกเลิกเคอฟิวส์ เพราะต้องคำนึงถึงความปลอดภัย เรื่องสุขภาพ ของประชาชนเป็นที่ตั้ง

พล.อ.สมศักดิ์ กล่าวต่อว่า การยกเลิก พรก.ฉุกเฉิน จำเป็นต้องพิจารณาหลายๆด้าน ทั้ง ความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม และความปลอดภัยของประชาชน เช่นเดียวกับ เคอฟิวส์ แม้ว่าบางกิจกรรม เช่น สถานบริการกลางคืน อย่าง ผับบาร์ ยังไม่อนุญาตให้เปิด แต่ยังพบประชาชนออกมามั่วสุมในยามวิกาล เช่น ตั้งวงสังสรรค์ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เล่นการพนัน ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยที่เสี่ยงต่อการระบาดของโควิด-19

ทั้งนี้ อาจจะพิจารณาขยายเวลาออกไปจากเดิม ซึ่งต้องดูกิจกรรมที่จะผ่อนปรนในระยะที่สอง ว่ามีอะไรบ้าง หากยังมีเคอฟิวส์จะส่งผลกระทบยังไง หรือ ยกเลิกเคอฟิวส์ จะมีผลอะไรตามมา ส่วนหากจะขยายเวลาเคอฟิวส์ เป็นช่วงเวลาไหนนั้น ยังตอบไม่ได้ ต้องหารือในภาพรวมที่ประชุม ศบค.อีกครั้ง

ขณะที่ นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. เปิดเผยถึงตัวอย่างกิจการที่อยู่ในข่ายได้รับการผ่อนปรนในระยะที่ 2 แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ 1 ด้านเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิตประจำวัน อาทิ การจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มในภัตตาคาร   สวนอาหาร  ศูนย์อาหาร  โรงอาหาร  และร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม ร้านขนมหวาน-ไอศกรีม, ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์  ( ยกเว้นโรงภาพยนตร์ ฟิตเนส โบว์ลิ่ง  ศูนย์ประชุม ศูนย์พระเครื่อง สวนสนุก สวนน้ำ), ร้านเสริมสวยให้สามารถย้อมผม ดัดผมที่ใช้เวลาไม่เกิน 2 ชม.และร้านทำเล็บ

กลุ่มที่ 2 ด้านการออกกำลังกายและการดูแลสุขภาพ เช่น คลีนิคเวชกรรมเสริมความงาม, สถานเสริมความงามคุมน้ำหนัก, สนามกีฬา (เฉพาะกีฬากลางแจ้ง และกีฬาเล่นเป็นทีม แต่ต้องไม่มีผู้เข้าชม), สวนดอกไม้ สวนพฤกษศาสตร์ พิพิธภัณฑ์ แกลลอรี่ ห้องสมุดสาธารณะ (จำกัดจำนวนการเข้า), สถานประกอบการนวดแผนไทย  (เฉพาะนวดเท้า )

กลุ่มที่ 3 ได้แก่ การประชุมภายใน-ภายนอกองค์กร การบรรยายร่วมวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ (จำกัดจำนวนคนตามพื้นที่), การถ่ายทำรายการและโฆษณา       ถ่ายแบบ ถ่ายคลิป (ต้องมีผู้เข้าร่วมไม่เกิน 5 คน) แต่กิจการหรือกิจกรรมนี้ เป็นแค่เบื้องต้น ยังต้องรอการหารือร่วมกันของหลายฝ่าย รวมทั้งที่ประชุมใหญ่ ศบค.สรุปสุดท้ายในวันที่ 15 พ.ค.63 นี้