หลังจากที่เมื่อคืนเราได้ดูฟุตบอลโล��คู่ระหว่าง โครเอเชีย กับ อังกฤษ กันไปแล้ว และแม้อังกฤษต้องพ่ายแพ้ไป แต่เราก็ควรจะมาพูดถึงอีกหนึ่งสิ่งที่แฟนบอลอังกฤษฮือฮากันมากในบอลโลกปีนี้กันสักหน่อย นั่นก็คือแฟชั่นที่เป็นซิกเนเจอร์ของ แกเรธ เซาท์เกต ผู้คุมทีม ที่ทำให้ 'เสื้อกั๊ก' กลับมาฮอตอีกครั้ง
แกเรธ เซาท์เกต อดีตกองหลังทีมชาติอังกฤษ และผู้คุมทีมชุดปัจจุบัน วัย 47 ปี นอกจากจะทำผลงานได้ดีในฟุตบอลโลกปีนี้แล้ว การแต่งตัวของเขายังโดดเด่น เป็นที่พูดถึง และเป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้แฟนบอลพากันแต่งตามเพื่อเป็นการเชียร์และนำโชคให้กับทีมชาติอีกด้วย จนเกิดเป็นกระแส #WaistcoatWednesday ซึ่งล่าสุดก็คือเมื่อคืนนี้ ที่เป็นวันชี้ชะตาสำหรับอังกฤษในการเข้าชิง
ลุคที่ว่าของเซาท์เกตไม่ได้แต่งตามยากเลย เพราะมันคือการสวมกั๊ก Marks and Spencer ราคา 65 ปอนด์ (2,900 บาท) กับเสื้อเชิ้ตฟ้า และเนกไทลายทางเท่านั้นเอง โดยที่เขาเริ่มแต่งแบบนี้ในนัดที่เล่นกับตูนิเซีย - ต่อมาที่แมตช์กับปานามา - เบลเยียม - จนกระทั่งมาถึงที่เตะกับโคลอมเบีย เสื้อกั๊กของเขาก็กลายมาเป็นมาสคอตตัวใหม่ของอังกฤษในบอลโลกปีนี้ไปในที่สุด มีแฟนเบส มีมีมเป็นของตัวเองเรียบร้อย
เครื่องแบบทีมชาติอังกฤษปีนี้ คือ สูท 3 ชิ้นจาก Marks and Spencer ที่ออกแบบร่วมกับสมาคมฟุตบอลอังกฤษ ราคารวมทั้งชุด 309 ปอนด์ (13,600 บาท) ถ้าต้องการเนกไทผ้าไหมด้วยก็เพิ่มอีก 25 ปอนด์ (1,100 บาท) ซึ่งความฮอตระดับนี้ของทีม และโททัลลุคของผู้คุมทีมคนนี้ก็ทำให้ Marks and Spencer ได้รับผลดีจากกระแส 'เซาท์เกต เอฟเฟกต์' ทำยอดขายเสื้อกั๊กเพิ่มขึ้นได้ถึง 35 เปอร์เซ็นต์ นับตั้งแต่บอลโลกเริ่มเตะ
ตัวสูทใช้เนื้อผ้าเป็นขนแกะจากแบรนด์ Alfred Brown ในยอร์กเชียร์ จากผู้ผลิตที่ส่งผ้าให้ทีมชาติชุดปี 2014 และนักกีฬาโอลิมปิก 2012 ที่กรุงลอนดอนมาแล้ว เสื้อนอกของทีมมีดาวประดับอยู่ 1 ดวง เพราะอังกฤษเคยเป็นแชมป์เมื่อปี 1966
ล่าสุด Marks and Spencer ออกมาบอกว่าเสื้อกั๊กหมดชั่วคราว ก่อนเกมนัดเมื่อคืน (11 ก.ค.) จะเริ่ม หรือก็คือก่อน #WaistcoatWednesday สร้างความไม่พอใจให้กับแฟนบอลที่อยากแต่งตัวตาม และแต่งตัวเพื่อนำโชคให้กับทีมอย่างยิ่ง แม้แต่ในร้าน Marks and Spencer สาขาในรัสเซีย เสื้อกั๊กแบบเซาท์เกตก็ขายหมดเกลี้ยงทุกไซซ์ ส่วนในอังกฤษ หลายสาขาก็ประกาศเติมสต็อกกันในนาทีสุดท้าย เพื่อรองรับความต้องการของแฟนบอลในเกมสำคัญ
อย่างไรก็ตาม เสื้อกั๊กเซาท์เกตกลับไม่ให้โชคพวกเขาเมื่อคืนนี้ และอังกฤษทำได้แค่เพียงไปรอชิงที่สามกับเบลเยียม แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เซาท์เกตและซิกเนเจอร์ลุคของเขาทำให้เกิดปรากฏการณ์ครั้งสำคัญขึ้นในวงการฟุตบอล และทำให้ชาวอังกฤษเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันมากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ อย่างที่ The Telegraph เช้านี้พาดหัวไว้ได้ดีมาก "Gareth Southgate, the understated manager, has transformed the nation's relationship with its football team" หรือ แกเรธ เซาท์เกต กุนซือที่ไม่ถูกกล่าวถึงเท่าที่ควร ได้ยกระดับความสัมพันธ์ของคนในประเทศกับฟุตบอลขึ้นอีกขั้น
สำหรับแฟนบอลยังสามารถรอลุ้นและเชียร์อังกฤษเป็นครั้งสุดท้ายในทัวร์นาเมนต์นี้ได้ในคืนวันเสาร์ (14 ก.ค.) นี้