ไม่พบผลการค้นหา
World Trend - 'โทรแจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย' ข้อจำกัดของลำโพงอัจฉริยะ - Short Clip
World Trend - ในอีก 2 ปี 83% ของงานองค์กรจะอยู่ใน 'คลาวด์' - Short Clip
World Trend - บริษัทญี่ปุ่นใช้ปัญญาประดิษฐ์ช่วยหางาน - Short Clip
World Trend - ยุโรปทดสอบเทคโนโลยีความปลอดภัยบนท้องถนนแบบใหม่ - Short Clip
World Trend - ชาวอเมริกันยอมจ่ายค่าสตรีมมิง 650 บาท/เดือน - Short Clip
World Trend - พนง.กูเกิลทั่วโลกประท้วงกรณีล่วงละเมิดทางเพศในที่ทำงาน - Short Clip
Facebook,Twitterfor Google Glass
World Trend - สิงคโปร์เตรียมออกกฎเข้มเพื่อต้าน 'ข่าวปลอม' - Short Clip
World Trend - ไมโครซอฟท์หยุดปล่อยอัปเดตวินโดวส์ 10 ชั่วคราว - Short Clip
World Trend - บ.แม่ Google เล็งเปิดฮับเทคโนโลยีในตะวันออกกลาง - Short Clip
World Trend - 'แอมะซอนโก' ทดลองให้บริการร้านขนาดเล็กขยายฐานลูกค้า - Short Clip
World Trend - สื่อออนไลน์สหรัฐฯ ปิดตัวหลัง Facebook ปรับอัลกอริทึม - Short Clip
World Trend - Google มองว่าช่องเสียบหูฟังยังจำเป็น - Short Clip
World Trend - ไมโครซอฟท์เตรียมป้องกันการแทรกแซงเลือกตั้งสหรัฐฯ - Short Clip
World Trend - โดมิโน่เตรียมใช้รถไร้คนขับส่งพิซซา - Short Clip
World Trend - '​สตาร์บัคส์เกาหลี' ลดใช้หลอดได้ 7.5 ล้านต่อเดือน - Short Clip
World Trend - 'Netflix ของคนผิวสี ' KweliTV ได้รับความนิยม - Short Clip
World Trend - 'เกรตแบร์ริเออร์รีฟ' อาจไม่สามารถฟื้นตัวได้อีก - Short Clip
World Trend - บริษัทไอที 32 แห่งลงนามสู้ภัยคุกคามทางไซเบอร์ - Short Clip
World Trend - Macy's ให้บริการ VR เลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ - Short Clip
World Trend - บ.เทคฯ ลงนามต้านก่อการร้าย-ความรุนแรง - Short Clip
May 17, 2019 04:35

กลุ่มบริษัทเทคโนโลยีและโซเชียลมีเดียรายใหญ่ของโลกลงนามร่วมกัน โดยพร้อมให้คำมั่นสัญญาในการทำงานกับรัฐบาลมากขึ้น ในการกำจัดการใช้ความรุนแรงอันจะนำไปสู่การก่อการร้ายโดยใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเป็นเครื่องมือ 

กลุ่มบริษัทผู้ให้บริการแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียระดับโลกอย่าง Facebook Twitter Google Microsoft และ Amazon ลงนามอย่างเป็นทางการร่วมกันเพื่อให้คำมั่นสัญญาว่า จากนี้เป็นต้นไป พวกเขาจะให้ความร่วมมือและทำงานร่วมกับหน่วยงานรัฐบาลและองค์กรพัฒนาเอกชน หรือ NGOs ในการออกระเบียบวิธีการปฏิบัติ เพื่อรับมือกับความรุนแรง การก่อการร้าย และวิกฤติต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นโดยใช้ช่องทางออนไลน์เป็นเครื่องมือ โดยมีการเรียกแผนการในครั้งนี้ว่า Christchurch Call to Action

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้น 2 เดือน หลังเกิดเหตุกราดยิงในเมืองไครสต์เชิร์ช ของนิวซีแลนด์ จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 50 ราย พร้อมกับมีการถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ขณะก่อเหตุ นี่จึงเป็นที่มาของการตั้งชื่อภารกิจรับมือดังกล่าวโดยใช้ชื่อเมืองไครสต์เชิร์ชนั่นเอง นอกจากนั้นทางกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีและโซเชียลมีเดียยังลงนามเพื่อปฏิญาณด้วยว่าจะร่วมกันสนับสนุนการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับประเด็นต่าง ๆ ในการรับมือและแก้ปัญหาในโลกออนไลน์ อันเกิดจากการใช้ความเกลียดชังและความรุนแรง รวมถึงจะร่วมกันพัฒนาการตรวจจับข้อมูลสุดโต่งด้วย

ในแถลงการณ์ร่วมที่ทางกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีได้ส่งให้กับสำนักข่าว CNN ระบุว่า การก่อการร้ายและความรุนแรงสุดโต่งต่างเป็นปัญหาทางสังคมที่มีความซับซ้อนอย่างมาก ซึ่งการจะรับมือหรือหาทางแก้ไขนั้นจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องมีการร่วมมือกันอย่างเต็มรูปแบบจากทุกภาคส่วนของสังคม การลงนามร่วมกันในครั้งนี้จึงถือเป็นก้าวแรกที่จะนำไปสู่การสร้างความตระหนักรู้ถึงความสำคัญในการร่วมกันทำงานของภาครัฐ ภาคสังคม และภาคเทคโนโลยี เพื่อสร้างความแข็งแกร่งในการต่อสู้กับการข่มขู่ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
185Article
76559Video
0Blog