เกาหลีใต้เปิดเผยตัวเลขความเสียหายจากคดีที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัลในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ว่ามีมูลค่าคิดเป็นเงินไทยสูงถึงเกือบ 71,000 ล้านบาท
กระทรวงยุติธรรมเกาหลีใต้เปิดเผยตัวเลขมูลค่าความเสียหายทางการเงินจากคดีที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัล หรือ คริปโตเคอร์เรนซี ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2017 ถึงเดือนมิถุนายน 2019 ว่ารวมเป็นเงินทั้งสิ้น 2 ล้าน 7 แสนล้านวอน หรือเกือบ 71,000 ล้านบาท โดยมีผู้กระทำผิดถูกตั้งข้อหาและควบคุมตัวไว้แล้ว 132 คน และอีก 288 คน ถูกตั้งข้อหาโดยยังไม่ได้จับกุม
ขณะที่ กระแสความนิยมในคริปโตเคอร์เรนซีกำลังค่อย ๆ แผ่วลงในเกาหลีใต้ กลับพบว่าอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินประเภทนี้มีมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเมื่อเดือนที่แล้ว นายพักซังกี รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม ต้องประกาศมาตรการเด็ดขาดกับผู้ทำความผิดในคดีประเภทนี้ ด้วยการให้อัยการริบคืนเงินผลประโยชน์ทั้งหมดกลับมาให้ได้
สถิติชี้ว่า เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มีการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลในเกาหลีใต้ 205 ครั้ง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะรัฐบาลกลางไม่มีข้อกำหนดที่รัดกุมแน่ชัด แม้ว่าจะมีการกำหนดให้ผู้ค้าสกุลเงินต้องกระทำผ่านชื่อ-สกุลจริงก็ตาม ขณะที่ ศาลเกาหลีใต้เองก็สตัดสินว่ารัฐบาลกลางไม่มีสิทธิ์สั่งปิดบัญชีบริษัทแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลได้ ทำให้ธุรกรรมเหล่านี้ยังสามารถทำให้โดยง่าย และเป็นช่องโหว่ให้แฮกเกอร์เจาะข้อมูลผู้ใช้งาน รวมถึงก่อคดีฉ้อโกง
ปีที่แล้ว 'บีธัมบ์' (Bithumb - 빗썸) แพลตฟอร์มซื้อขายบล็อกเชนรายใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้ ประกาศมูลค่าของเสียหายกว่า 35,000 ล้านวอน หรือ 920 ล้านบาท หลังถูกเจาะข้อมูลโดยแฮกเกอร์ ด้านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เจยุนกยอง ก็ได้เรียกร้องให้ผ่านร่างกฎหมายยกระดับความปลอดภัยทางไซเบอร์ ซึ่งรวมถึงการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลแล้ว แต่ร่างกฎหมายยังค้างอยู่ในสภา และไม่ได้รับการพิจารณา