ไม่พบผลการค้นหา
โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยอมรับเมื่อวันพุธ (4 ต.ค.) ว่า เขากังวลว่าความวุ่นวายทางการเมืองในรัฐสภาสหรัฐฯ อาจคุกคามความช่วยเหลือของสหรัฐฯ ต่อยูเครน ทั้งนี้ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้เรียกร้องให้พรรครีพับลิกันยุติการเผชิญหน้ากันในทางการเมือง และสนับสนุนความช่วยเหลือที่ "สำคัญอย่างยิ่งยวด" ให้กับยูเครน

ไบเดนยังกล่าวด้วยว่า ในช่วงเวลาเร็วๆ นี้ เขาจะกล่าวสุนทรพจน์สำคัญเกี่ยวกับความจำเป็น ในการสนับสนุนการต่อสู้ของยูเครนต่อการรุกรานของรัสเซีย หลังจากความวุ่นวายในรัฐสภาสหรัฐฯ ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ส่งผลให้ชาติพันธมิตรสหรัฐฯ ตื่นตระหนกต่อท่าทีของสหรัฐฯ ต่อการช่วยเหลือยูเครน

“มันทำให้ผมกังวล” ไบเดนกล่าวกับผู้สื่อข่าว เมื่อถูกถามว่าการลงมติถอดถอน เควิน แม็กคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรของพรรครีพับลิกัน โดยกลุ่มหัวรุนแรงในพรรครีพับลิกันเอง ว่าอาจส่งผลกระทบต่องบประมาณสำหรับการทำสงครามของยูเครนมากขึ้นหรือไม่ “แต่ผมรู้ว่ามีสมาชิกส่วนใหญ่ ของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาของทั้งสองฝ่าย ที่กล่าวว่าพวกเขาสนับสนุนการให้งบช่วยเหลือยูเครน”

ในการผ่านมติครั้งล่าสุดของรัฐสภาสหรัฐฯ เพื่อหลีกเลี่ยงการชัตดาวน์รัฐบาลสหรัฐฯ เมื่อช่วงสุดสัปดาห์นั้น ไม่มีการอนุมัติงบช่วยเหลือชุดใหม่สำหรับยูเครน และความหวังในการหาทางออกอย่างรวดเร็วยังมีความซับซ้อนมากขึ้น เนื่องจากการออกจากตำแหน่งของแม็กคาร์ธีในวันอังคารที่ผ่านมา (3 ต.ค.) ทั้งนี้ ผู้เข้าท้าชิงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันออกไป แต่หนึ่งในนั้นคือ จิม จอร์แดน จากพรรครีพับลิกันฝ่ายขวาจัด ซึ่งมีความกังขาอย่างเห็นได้ชัด เกี่ยวกับการให้งบสนับสนุนแก่ยูเครน

ช่วงเวลาในการอนุมัติงบประมาณช่วยเหลือยูเครนมีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยทำเนียบขาวเตือนว่าความช่วยเหลือต่อยูเครนอาจหมดลงภายในไม่กี่เดือนข้างหน้า เช่นเดียวกับที่ยูเครนพยายามผลักดันการรุกตอบโต้รัสเซียที่ดำเนินไปอย่างช้าๆ ก่อนที่ฤดูหนาวจะมาเยือน โดยไบเดนระบุว่า มี “วิธีอื่นที่เราอาจสามารถทำได้ เพื่อหางบช่วยเหลือ” โดยไม่ต้องอาศัยการการอนุมัติจากรัฐสภา แต่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ เพิ่มเติม

ทำเนียบขาวแถลงว่า ทำเนียบขาวจะรับฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับยูเครนจากคณะทำงานความมั่นคงแห่งชาติในวันพฤหัสบดี (5 ต.ค.) โดยจะเป็นการบรรยายสรุปที่มี พล.อ.ชาร์ลส์ “ซีคิว” บราวน์ ประธานคณะเสนาธิการร่วมคนใหม่ของสหรัฐฯ เข้าร่วมด้วย

ทั้งนี้ ความคิดเห็นของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในใหม่ครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนน้ำเสียง ดังที่ไบเดนระบุกับพันธมิตรผ่านทางโทรศัพท์เมื่อวันอังคารว่า เขา “มั่นใจ” ที่จะมีการอนุมัติความช่วยเหลือชุดใหม่ 

ไบเดนกล่าวว่าเขาจะกล่าวถึงความสำคัญของการช่วยเหลือยูเครน ในขณะที่ต่อสู้กับการรุกรานเต็มรูปแบบที่รัสเซียเปิดฉากขึ้นในเดือน ก.พ. 2565 “ผมจะประกาศสุนทรพจน์สำคัญที่ผมจะทำในเรื่องนี้เร็วๆ นี้ และเหตุใดการที่เรารักษาคำมั่นสัญญาจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง สำหรับสหรัฐฯ และพันธมิตรของเรา” ไบเดนกล่าว ทั้งนี้ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปฏิเสธที่จะระบุว่า เขาจะกล่าวสุนทรพจน์ดังกล่าวเมื่อใด

โอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี กล่าวเมื่อวันพุธว่า เขา "เชื่อมั่น" ว่าสหรัฐฯ จะยังคงให้การสนับสนุนยูเครนต่อไป แม้ว่าจะมีความวุ่นวายทางการเมืองในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.ก็ตาม “ผมมั่นใจมากว่ารัฐสภาสหรัฐฯ จะทำให้การสนับสนุนที่จำเป็นสำหรับยูเครนเป็นไปได้” โชลซ์กล่าวกับผู้สื่อข่าวในกรุงเบอร์ลิน หลังจากการพูดคุยทางโทรศัพท์กับไบเดนเมื่อวันอังคาร

ไบเดนพูดคุยกับผู้นำจากชาติพันธมิตรสำคัญๆ ได้แก่ สหราชอาณาจักร แคนาดา เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น โปแลนด์ โรมาเนีย ผู้นำสหภาพยุโรป และองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศฝรั่งเศส

โชลซ์กล่าวหลังจากพูดคุยกับไบเดนว่า เขาเชื่อว่า “ในบรรดาผู้แทนจากพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกัน มีคนจำนวนมากที่เห็นด้วยกับการสนับสนุนนี้อย่างชัดเจน… นั่นคือเหตุผลที่ผมมั่นใจว่า กระบวนการทางการเมืองจะประสบความสำเร็จ ในการอนุมัติความช่วยเหลือนี้อย่างรวดเร็ว” นอกเหนือจากความช่วยเหลือ ที่ได้รับการลงมติผ่านรัฐสภาสหรัฐฯ ก่อนหน้านี้แล้ว นายกรัฐมนตรีเยอรมนียังกล่าวเสริมอีกว่า “ข้อความของประธานาธิบดีคือ ใครๆ ก็สามารถไว้วางใจสหรัฐฯ ในประเด็นนี้ต่อไปได้อย่างแน่นอนในอนาคต”

รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ให้ความช่วยเหลือทางการทหารแก่ยูเครน เป็นมูลค่ามากกว่า 4.3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 1.58 ล้านล้านบาท) นับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากการรุกรานเต็มรูปแบบ ในเดือน ก.พ. 2565 โดยรัฐสภาสหรัฐฯ ได้อนุมัติเงินช่วยเหลือทั้งหมด 1.13 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 4.17 ล้านล้านบาท) ซึ่งรวมถึงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมด้วย ในขณะที่เยอรมนีเป็นผู้ให้ความช่วยเหลือทางทหารรายใหญ่แก่ยูเครนอันดับ 2 รองจากสหรัฐฯ


ที่มา:

https://www.theguardian.com/world/2023/oct/05/joe-biden-washington-turmoil-kevin-mccarthy-impact-ukraine?CMP=Share_AndroidApp_Other&fbclid=IwAR0iQn43X5eWocD89kQNUWhSl0zYrORbDOWdbRD2XDbLdcN3A7A6r6kfTC4