ไม่พบผลการค้นหา
'อุตตม-สนธิรัตน์'เปิดตัว'พรรคสร้างอนาคตไทย เกิดขึ้นด้วยจุดยืน 'ไม่ซ้ายสุดขั้ว-ไม่ขวาสุดโต่ง-ไม่ปล้นชาติ' ไม่เป็นพรรคนอมินี 'ประยุทธ์' ไม่เสนอ 'ประยุทธ์' เป็นนายกฯ ย้ำไม่หันหลังกลับไปหลังออกจาก พปชร. ย้ำต่อสู้ในสิ่งที่ทำลายบ้านเมือง ออกปากหนุน 'สมคิด' เหมาะเป็นนายกฯ ได้

วันที่ 19 ม.ค. 2563 ที่ห้อง World Ballroom ชั้นที่ 23 โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ อุตตม สาวนายน อดีต รมว.คลัง และอดีตหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีต รมว.พลังงาน แถลงเปิดตัว “พรรคสร้างอนาคตไทย” โดยมีนักการเมือง นักวิชาการ นักธุรกิจ เป็นต้นร่วมงาน อาทิ สุพล ฟองงาม อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ สันติ กีระนันทน์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ มนต์ชีพ ศิวะสินางกูร หรือ “นายสะอาด” นักร้องชื่อดัง ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคกล้า

อุตตม แถลงว่า จุดยืนพรรคสร้างอนาคตไทยไม่ซ้ายสุดขั้ว ไม่ขวาสุดโต่ง ไม่โกง ไม่ปล้นชาติ อาสาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้คนไทย และขอเชิญประชาชนทุกท่านมาสร้างอนาคตไทย พร้อมย้ำพรรคสร้างอนาคตไทย ไม่ได้เป็นแค่พรรคการเมือง แต่เป็นพื้นที่เปิดรวบรวมกลุ่มคนหลากหลายสาขาอาชีพในทุกภาคส่วน ทุกเพศ ทุกวัย ร่วมระดมความคิดเห็น ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ เพื่อฟื้นเศรษฐกิจ ฟื้นฟูประเทศ สถานการณ์ประเทศมีความน่าเป็นห่วง ทั้งมิติเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ปัญหาปากท้องทำคนเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้ารายได้คนทำงานถดถอย สวนทางค่าครองชีพที่สูงขึ้น และโรคระบาดโควิด ยังไม่เห็นจุดสิ้นสุด เมื่อศรษฐกิจสะดุดลง ปัญหาความเหลื่อมล้ำเพิ่มขึ้น กระทบต่อความมั่นคงทางสังคม บั่นทอนคุณภาพชีวิตและความหวังของคนไทย

"1 ปีครึ่งที่ผ่านมาที่เราออกจากรัฐบาล เรามีโอกาสพบเจอผู้คนมากมาย ได้รับฟังเสียงสะท้อน ความต้องการที่อยากเห็นสมการเมืองที่เปลี่ยนแปลง เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้อย่างราบรื่นอีกครั้ง” อุตตม กล่าว

อุุตตม สันติ พรรคสร้างอนาคตไทย 47496DAF57C8.jpeg

อุตตม ยังย้ำจุดยืน ‘ไม่ซ้ายสุดขั้ว ไม่ขวาสุดโต่ง’ ว่ามีความหมายคือ พรรคไม่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้งใดๆ ในทางการเมือง แม้ว่าจะเคยเป็นส่วนหนึ่งของพรรคพลังประชารัฐ แต่เมื่อเงื่อนไขการเมืองเปลี่ยนก็ต้องจากออกมา การทำงานของเราทำเพื่อประชาชน ไม่ใช่เพื่อคนใดคนหนึ่ง พวกตนเดินออกมาแล้ว ไม่หันหลังกลับ 

ขณะที่ สนธิรัตน์ ระบุว่า ความจริงแล้วพวกตนไม่ได้คิดกลับมาทำงานการเมืองอีก แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าสถานการณ์บ้านเมืองวันนี้ พี่น้องประชาชนต่างตามหาความหวังที่จะฝ่าวิกฤต เราจึงตัดสินใจรวบรวมผู้คนที่ปรารถนาดีต่อชาติบ้านเมือง จนได้เห็นศักยภาพของคนหลากหลายกลุ่ม บุคคลที่จะได้พบในวันนี้เป็นเพียงชุดแรกที่จะมาแสดงเจตนารมณ์ก่อตั้งพรรคเท่านั้น 

"พรรคสร้างอนาคตไทยไม่ได้เกิดเพราะการเลือกตั้ง แต่เกิดขึ้นเพื่อความหวัง เราจะต่อสู้ในสิ่งที่กัดกร่อนและทำลายบ้านเมือง" สนธิรัตน์ กล่าว 

นิพิฏฐ์ พรรคสร้างอนาคตไทย สร้างอนาคตไทย 29F-B252-0B4C1D497F43.jpegสนธิรัตน์ นิพิฏฐ์ สร้างอนาคตไทย -8C2F-40CC-AE63-61502DD6EAF9.jpegสนธิ วัชระ กรรณิการ์  สร้างอนาคตไทย 20228253.jpegอุุตตม สนธิรัตน์ สร้างอนาคตไทย นิพิฏฐ์ 44E03F6E12.jpegสนธิรัตน์ นิพิฏฐ์ สร้างอนาคตไทย -8C2F-40CC-AE63-61502DD6EAF9.jpeg

จากนั้น อุตตมและสนธิรัตน์ได้ตอบคำถามสื่อมวลชนถึงจุดยืนของพรรคและการสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นนายกรัฐมนตรี อีกสมัยหรือไม่ โดย สนธิรัตน์ ระบุว่า จุดยืนของพรรคสร้างอนาคตไทย เป็นพรรคที่เสนอตัวมาแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้กับประเทศ และขอยืนยันว่าพรรคจะไม่เสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคในการเลือกตั้งสมัยต่อไปแน่นอน และพรรคสร้างอนาคตไทยไม่ใช่พรรคนอมินี หรือพรรคอะไหล่ของ พล.อ.ประยุทธ์ โดยพรรคมีกระบวนการของพรรคในการคัดเลือกบุคคลที่เหมาะสมเป็นแคนดิเดตนายกฯ ทั้ง 3 รายชื่อ อย่างไรก็ตาม ในอนาคต พรรคจะฟังเสียงของประชาชนเป็นหลักว่าผลการเลือกตั้งเป็นอย่างไร จากนั้นจึงพิจารณาว่าพรรคฯ จะร่วมงานด้วยหรือไม่

เมื่อถามถึงเจตนาจะส่ง ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และหนึ่งในอดีตรัฐมนตรีคนสำคัญในกลุ่ม ‘สี่กุมาร’ เป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกฯ หรือไม่นั้น ทั้งอุตตม และสนธิรัตน์ ตอบว่า โดยส่วนตัวเชื่อว่า ดร.สมคิด มีความเหมาะสม แต่อย่างไรก็ตามต้องเป็นไปตามการพิจารณาของสมาชิกพรรค และต้องตรงตามหลักการที่ชัดเจนของพรรคในการเสนอชื่อนายกฯ ส่วนจะได้เสนอชื่อเป็นแคนดิเดตหัวหน้าพรรคหรือไม่นั้น ต้องติดตามในขั้นตอนต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง