วันนี้ 5 มี.ค. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ แกนนำและผู้ร่วมก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย พร้อมด้วย วัชระ กรรณิการ์ กรรมการประสานงานพรรคฯ และอิธวัฒน์ พิทักษ์คุมพล ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคฯลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส มอบถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม 3 ตำบล ในพื้นที่อำเภอเมือง ได้แก่ ตำบลมะนังตายอ ตำบลลำภู และตำบลบางปอ โดยมีกำนันและผู้ใหญ่บ้านเป็นตัวแทนรับมอบ พร้อมพบปะให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และผู้นำชุมชนที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ โดยมี กูเซ็ง ยาวอหะซัน นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนราธิวาส และนายวัชระ ยาวอหะซัน สส.นราธิวาส เขต 1 และนักการเมืองท้องถิ่นในจังหวัดนราธิวาสเป็นจำนวนมาก ให้การต้อนรับและนำลงพื้นที่ช่วยเหลือชุมชน

สนธิรัตน์กล่าวว่า การลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาสในวันนี้ มีความตั้งใจนำคณะผู้ร่วมก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย มาร่วมให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส โดยได้นำถุงยังชีพที่ประกอบด้วยเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการยังชีพ อาทิ ข้าวสาร อาหารแห้ง และน้ำดื่ม เป็นต้น มามอบให้กับพี่น้องผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ 3 ตำบล คือ ตำบลมะนังตายอ ตำบลลำภู และตำบลบางปอ เพื่อเป็นการช่วยเหลือเบื้องต้นก่อน พร้อมมารับฟังว่าพี่น้องประชาชนยังขาดความช่วยเหลือในด้านใดบ้าง เพื่อที่จะได้ให้ความช่วยเหลือต่อไป

"รวมถึงต้องการมาพบปะให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และผู้นำชุมชนในพื้นที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือชาวบ้านตลอดช่วงสถานการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้ ซึ่งตนได้รับเกียรติจากนายกูเซ็ง ยาวอหะซัน นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนราธิวาส และนายวัชระ ยาวอหะซัน สส.นราธิวาส เขต 1 ในฐานะเจ้าบ้านให้การต้อนรับและนำลงพื้นที่ช่วยเหลือชุมชน" สนธิรัตน์กล่าว

อย่างไรก็ตาม สนธิรัตน์ ระบุว่า การพบกันครั้งนี้ ไม่ได้มีมิติหรือนัยยะทางการเมืองแต่อย่างใด เป็นเพียงความร่วมมือในฐานะคนที่รักใคร่นับถือกันและเคยทำงานร่วมกันมาก่อนอย่างยาวนานเท่านั้นเอง ส่วนเรื่องการเมืองนั้นขอให้เป็นเรื่องของอนาคต

“ในสถานการณ์น้ำท่วมเช่นนี้ พี่น้องประชาชนต่างประสบความยากลำบากทั้งเรื่องที่อยู่อาศัย พื้นที่ทำมาหากิน ตลอดจนเครื่องอุปโภคบริโภค ซึ่งพรรคสร้างอนาคตไทยมองว่าในฐานะคนไทยด้วยกันการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนต้องเร่งทำทันที โดยได้กำชับให้กรรมการสาขาพรรคในพื้นที่ภาคใต้ แกนนำ และสมาชิกพรรคร่วมลงพื้นที่เพื่อให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนผู้ประสบภัยในแต่ละพื้นที่จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย” สนธิรัตน์กล่าว

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้ มาพูดคุยประเด็นการเมืองด้วยหรือไม่ สนธิรัตน์กล่าวว่า การลงพื้นที่ก็เป็นธรรมดาที่ต้องพบปะกลุ่มการเมือง เพื่อรับฟังและแลกเปลี่ยนข้อมูลของพื้นที่ เพื่อนำไปสู่การพัฒนา การเปลี่ยนแปลงที่เป็นความหวังเรื่องความเป็นอยู่ที่ดีของพี่น้องประชาชน ซึ่งพรรคเองก็อยู่ระหว่างการจัดทำนโยบายพรรค ดังนั้นการรับฟังข้อมูลในพื้นที่จึงนับเป็นสิ่งที่สำคัญ

ผู้สื่อข่าวถามต่อถึงการวางนโยบายพรรคสร้างอนาคตไทยในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งนายสนธิรัตน์ มองว่า พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้นั้นมีศักยภาพทางเศรษฐกิจ เป็นพื้นที่ทางการค้าชายแดนที่สำคัญ ซึ่งหากมีการพัฒนาด้านเศรษฐกิจให้มีความเข้มแข็ง นอกจากจะนำมาซึ่งความอยู่ดีกินดีของพี่น้องประชาชนแล้ว ยังจะสามารถนำไปสู่การแก้ปัญหาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ได้ด้วย เพราะการแก้ปัญหาดังกล่าวมิติความมั่นคงเพียงอย่างเดียวถือว่ายังไม่เพียงพอ

"ซึ่งพรรคสร้างอนาคตไทย มีความชัดเจนที่อาสาเข้ามาแก้ปัญหาด้านเศรษฐกิจของประเทศ และมีทีมเศรษฐกิจที่มีความสามารถและมีประสบการณ์ที่จะเข้ามาทำงานตรงนี้ ส่วนการวางตัวผู้สมัครในพื้นที่นั้น พรรคจะสรรหาคนที่มีความสามารถ เป็นที่ยอมรับ และเป็นหลักพึ่งพิงของคนในพื้นที่ได้ ซึ่งพรรคจะมีการเปิดตัวต่อในโอกาสต่อไป" สนธิรัตน์กล่าว