ไม่พบผลการค้นหา
'สนธิรัตน์' เลขาฯ สร้างอนาคตไทย เผยกระแสพรรคดีวันดีคืน มั่นใจป็นมวยหลักในกลุ่มพรรคใหม่ เดินหน้ายุทธศาสตร์กองทุนสร้างอนาคตไทย ลุยเจาะพื้นที่อันดามัน 15 ก.ย. นี้ เชื่อเลือกตั้งครั้งหน้าเกิดเหตุพลิกล็อค

วันที่ 7 ก.ย. 2565 ที่ห้องลีลาวดี โรงแรมรามา การ์เด้นส์ สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย กล่าวถึงความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งในกิจกรรมคิดสร้างอนาคตไทย โดยเป็นการประชุมสัมมนาผู้แสดงเจตจำนงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ในนามพรรคฯ ทั่วประเทศ ว่า พรรคสร้างอนาคตไทยเป็นพรรคที่ดีวันดีคืน การเมืองวันนี้มาถึงจุดเปลี่ยน เพราะพรรคเดิมไม่สามารถสร้างความไว้วางใจ ถ้าพวกเราย้อนไปในช่วงเวลาเกือบ 2 ปี ได้มีความพยายามก่อตั้งทางเลือกใหม่ๆ ให้กับการเมืองไทย วันนี้พรรคสร้างอนาคตเป็นหนึ่งในพรรคเหล่านั้นที่ได้เกิดขึ้นเพื่อเสนอตัวให้พี่น้องประชาชน พิสูจน์แล้วว่า พรรควันนี้ถือเป็นพรรคมวยหลักที่สำคัญที่สุดของพรรคใหม่ทั้งหมด 

สนธิรัตน์ กล่าวต่อว่า พรรคมีการวัดกระแส โดยก่อนมางานในวันนี้ได้รับรายงานว่า กระแสของพรรคในโซเชียลขึ้นมาอันดับที่ 4 ทั้งบวก และลบ บางพื้นที่อาจจะเห็นบางพื้นที่อาจจะไม่เห็น ซึ่งเราติดตามอยู่ ขณะเดียวกัน พรรคเองพยายามอย่างยิ่งที่จะเดินหน้าในทางยุทธศาสตร์ของพรรค การรวมตัวทั้งประเทศเป็นเรื่องใหญ่ แต่ต้องใช้เวลาวันนี้เก็บเกี่ยวยุทธศาสตร์ของพรรคที่เอาไปใช้ในพื้นที่ และในเรื่องนโยบาย กองทุนสร้างอนาคตไทย 300,000 ล้านบาท ที่จะไปเชื่อมโยงกับพื้นที่ของผู้สมัครรับเลือกตั้งแต่ละท่าน 

สนธิรัตน์ กล่าวอีกว่า จากนี้ไปเหลือเวลาจริงๆ อีก 5-6 เดือนเท่านั้น หลังประชุมเอเปค แนวโน้มสูงมากที่จะเกิดการยุบสภาเมื่อไหร่ก็ได้ เป็นการยากที่รัฐบาลจะลากระยะเวลาไปจนจบวาระสภาชุดนี้ในปลายเดือนมีนาคม ตนประเมินเบื้องต้นว่า การยุบสภามีแนวโน้มเกิดเดือนมกราคมเป็นต้นไป เพราะฉะนั้นจากวันนี้เป็นต้นไป พรรคสร้างอนาคตไทยจะเดินหน้าไปสนับสนุนประชาชนอย่างเต็มที่ 

หลังจากพรุ่งนี้ (8 ก.ย.) จะได้พบกับท่านประธานพรรค และวันพรุ่งนี้คือวันประกาศตัวเปิดศึกครั้งใหญ่ในการที่จะพร้อมต่อการต่อสู้การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น ผู้บริหารพรรคจากส่วนกลางจะเริ่มเคลื่อนตัวไปสนับสนุนในแต่ละภาค เบื้องต้นลงไปอันดามัน 19 ก.ย. 2565 และสัปดาห์ถัดไปจะขึ้นไปสู่พื้นที่อีสาน 

"เมื่อเปิดตัวเกิดกระแสแน่นอน แค่เพียง สมคิด ลาออกจากประธานกรรมการของบริษัทเอกชน ก็ครองพื้นที่ข่าวมา 3-4 วัน ตั้งแต่พรุ่งนี้ (8 ก.ย.) คือปัจจัยบวกที่เราจะเดินหน้ารุก เพราะที่ผ่านมา เราไม่เร่ง เนื่องจากคิดว่าสถานการณ์การเมืองยังไม่ใช่เวลาที่จะเร่ง แต่จากนี้ไปเราจะเร่งทั้งหมด" สนธิรัตน์ กล่าว 

สนธิรัตน์ กล่าวอีกว่า ตนไม่ได้ทำการเมืองเพื่อเอาสนุก เวลาห้ำหั่นมันเหน็ดเหนื่อยยากเข็ญ มันบีบหัวใจ มันเป็นการต่อสู้ที่เอาเป็นเอาตาย สิ่งเหล่านั้นจะเกิดขึ้นในอีกไม่นาน แต่หัวใจสำคัญคือ เป็นโอกาสของชีวิตที่จะพลิกเป็นผู้ชนะหรือผู้แพ้ พรรคพร้อมจะสนับสนุนให้ประสบชัยชนะ แต่ท่านเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องทุ่มเทอย่างเต็มที่กับโอกาสในชีวิต 

อย่างไรก็ตาม สนธิรัตน์ กล่าวเสริมว่า ในทัศนะของตน การเลือกตั้งครั้งนี้จะพลิกล็อกมหาศาล ไม่จริงที่นักการเมืองเก๋าๆ จะชนะ ไม่จริงที่พรรคนี้จะเป็นของตาย ความรู้สึกพี่น้องประชาชนวันนี้คือความรู้สึกท้อแท้ เพราะฉะนั้นความเป็นพรรคใหม่ที่สดใส ไม่มีแผลไม่มีคำครหาจะเข้ามาแก้ปัญหาพี่น้องประชาชน 

"ฉะนั้นการล้มยักษ์ เกิดขึ้นได้เสมอบนการเมืองแบบนี้ การเมืองไทยกำลังอยู่ในรอยต่อแห่งความเปลี่ยนแปลง กลไกของอำนาจ และเงินอาจไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่คิด" สนธิรัตน์ กล่าว 

อุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทยยังกล่าวต่อที่ประชุมใหญ่พรรคสร้างอนาคตไทยว่า วันนี้เป็นจัดพลิกผันครั้งสำคัญของพรรค ด้วยกรรมการบริหารพรรคมีมติเชิญ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ มานั่งตำแหน่งประธานพรรคสร้างอนาคตไทย และเชื่อว่าจะได้รับข่าวดีจากการตอบรับ 

โดย สมคิด จะมาเป็นผู้นำของพรรคสร้างอนาคตไทยทั้งทางอุดมการณ์ และความคิด เป็นพลังสำคัญของพรรค ที่จะร่วมกันขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พรรคไปสู่เป้าหมาย และยืนยันจะเดินหน้างานการเมืองอย่างเต็มที่ 

อีกทั้งในช่วงนี้เข้าสู่ห้วงเวลาการเข้าโค้งสุดท้าย 6 เดือนก่อนการเลือกตั้งที่ต้องลุยอย่างเต็มที่งานทางการเมือง จ่อตั้งกองทุนสร้างอนาคตไทย ที่นายสันติ กีระนันท์ เป็นผู้รับผิดชอบ วางงานด้านโซเชี่ยลเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้พรรค และขอสมาชิกพรรคทำงานในพื้นที่เพื่อประจักษ์เพื่อพิสูจน์ฝีมือว่า "สมกับเป็นผู้แทนที่จะทำงานให้ประชาชน" 

ทั้งนี้บรรยากาศการประชุม เป็นไปเย่างหึกเหิมหลังระหว่างประชุมแกนนำพรรคประกาศว่า สุรนันท์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย ในฐานะผู้รับผิดชอบพื้นที่การเลือกตั้งใน กทม.ประกาศจะคว้าเก้าอี้ ส.ส.ให้ได้ 33 เขต รวมถึง นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย ที่รับผิดชอบพื้นที่เลือกตั้งในภาคใต้ประกาศคว้าชัยในสนามภาคใต้ไม่ต่ำกว่า 20 ที่นั่ง หากต่ำกว่านี้ ไม่ใช่นิพิฏฐ์