การยิงขีปนาวุธจากทางฝั่งเกาหลีเหนือ ส่งผลให้เกิดเสียงแจ้งเตือนบริเวณพื้นที่ทางตอนเหนือของญี่ปุ่น เพื่อให้ประชาชนเร่งอพยพเข้าที่หลบภัย ทั้งในพื้นที่จังหวัดมิยากิ ยามากาตะ และนีงาตะ อีกทั้งการหยุดวิ่งรถไฟชั่วคราว เนื่องจากความกังวลว่าขีปนาวุธอาจร่อนข้ามเหนือศีรษะไป อย่างไรก็ดี ทางการญี่ปุ่นได้ออกมาระบุในเวลาต่อมาว่า ขีปนาวุธของเกาหลีเหนือตกลงที่บริเวณทะเลญี่ปุ่น โดยไม่ได้ร่อนข้ามดินแดนของญี่ปุ่นแต่อย่างใด
ฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ออกมาประณามการยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือในครั้งนี้ว่าเป็นเรื่อง “อุกอาจและอดทนอดกลั้นไม่ได้อย่างรุนแรง” ทั้งนี้ ทางการเกาหลีใต้ระบุว่า การยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือประกอบด้วยขีปนาวุธพิสัยไกลที่ยิงจากกรุงเปียงยาง และขีปนาวุธพิสัยใกล้ 2 หัวรบ ที่ยิงจากพื้นที่แคช็อน ทางเหนือของเมืองหลวงเกาหลีเหนือ
เวนดี เชอร์แมน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่า เธอได้พูดคุยกับพันธมิตรเกาหลีใต้แล้ว โดยเธอยืนยันว่าสหรัฐฯ มี “ความมุ่งมั่นของเราในการรักษาความปลอดภัยของสาธารณรัฐเกาหลีและญี่ปุ่น (ที่) ยังคงแข็งแกร่ง และเราจะร่วมมือกันจัดการกับการยั่วยุของเกาหลีเหนือ และความท้าทายอื่นๆ ร่วมกัน”
ยาสึคาสึ ฮามาดะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นกล่าวว่า ขีปนาวุธทั้ง 3 หัวรบ ถูกยิงก่อนช่วงเวลา 08.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น และยืนยันว่าไม่มีขีปนาวุธหัวใดร่อนผ่านดินแดนของญี่ปุ่น โดยหนึ่งในขีปนาวุธดังกล่าวมีระยะความสูงในการร่อนสูงสุดอยู่ที่ 2,000 กิโลเมตร และร่อนได้ประมาณ 750 กิโลเมตร นอกจากนี้ รายงานของสื่อญี่ปุ่นระบุว่า ขีปนาวุธพิสัยไกลตกลงในน่านน้ำห่างจากชายฝั่งไปประมาณ 1,100 กิโลเมตร
ก่อนหน้านี้ เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธข้ามดินแดนญี่ปุ่นเมื่อช่วงเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา โดยเกาหลีเหนือเรียกการทดลองดังกล่าวว่าเป็นการทดสอบขีปนาวุธพิสัยกลางใหม่ (IRBM) ซึ่งผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า มันสามารถยิงไปได้ไกลถึงศูนย์กลางทางทหารหลักของสหรัฐฯ ในมหาสมุทรแปซิฟิก ทั้งนี้ การยิงขีปนาวุธดังกล่าวทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นต้องออกการแจ้งเตือนการอพยพและหยุดรถไฟต่อประชาชนในทันที
รัฐบาลและกองทัพญี่ปุ่นเตรียมความพร้อม สำหรับการยิงขีปนาวุธเพิ่มเติมจากเกาหลีเหนือในวันพฤหัสบดีนี้ ภายหลังจากที่เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธจำนวนมากไปในช่วงเมื่อวาน (2 พ.ย.) ซึ่งขีปนาวุธจำนวนหนึ่งร่อนผ่านพรมแดนทางทะเลของเกาหลีใต้ ส่งผลให้เกิดสัญญาณแจ้งเตือนการอพยพต่อประชาชนโดยเร่งด่วน
เมื่อช่วงวันพุธที่ผ่านมา เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธชนิดต่างๆ จำนวน 25 ลูก ซึ่งรวมถึงขีปนาวุธที่ร่อนเข้าใกล้กับน่านน้ำของเกาหลีใต้ ทั้งนี้ ยุนซอกยอล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้กล่าวว่า “การโจมตีทางอาณาเขตด้วยขีปนาวุธ” นับเป็นการโจมตีในลักษณะดังกล่าวครั้งแรก นับตั้งแต่การแบ่งคาบสมุทรในปี 2488 และเป็นเหตุการณ์ที่ขีปนาวุธของเกาหลีเหนือตกลงใกล้กับเกาหลีใต้มากที่สุด ซึ่งเกินเส้นแบ่งขีดจำกัดทางเหนือ 26 กิโลเมตร ทั้งนี้ ทางการเกาหลีใต้ได้ตอบโต้เกาหลีเหนืออย่างรวดเร็ว โดยการยิงขีปนาวุธอากาศสู่พื้นดินจากเครื่องบินขับไล่ไอพ่น ข้ามพรมแดนทางทะเลกับเกาหลีเหนือ
เกาหลีเหนืออ้างว่าการยิงขีปนาวุธของตนเป็นการตอบโต้สหรัฐฯ และเกาหลีใต้ ที่จัดให้มีการซ้อมรบร่วมทางทหารครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ภายใต้ชื่อการซ้อมรบ “Vigilant Storm” โดยการซ้อมรบครั้งนี้ ออกแบบมาเพื่อขัดขวางความทะเยอทะยานทางนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ ซึ่งการซ้อมรบประกอบไปด้วยเครื่องบินรบ 240 ลำ รวมถึงเครื่องบินขับไล่ล่องหน F-35 ขั้นสูง ซึ่งทำการก่อกวนได้ประมาณ 1,600 ครั้ง ทั้งนี้ การฝึกซ้อมขนาดใหญ่ระหว่างสหรัฐฯ กับเกาหลีใต้ เริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงวันจันทร์ที่ผ่านมา (31 ต.ค.) และจะดำเนินการไปจนถึงวันศุกร์นี้ (4 พ.ย.)
ที่มา: