ไม่พบผลการค้นหา
โวโลดีเมอร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครนกล่าวบนที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ถึงเหตุการณ์อันน่าสยดสยองในเมืองบูชาของตน ก่อนชี้ว่าคณะผู้นำของรัสเซียจะต้อง “ถูกนำตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมในข้อหาอาชญากรรมสงคราม”

เซเลนสกียังได้ชี้อีกว่า ควรมีการตั้งศาลระหว่างประเทศในลักษณะที่คล้ายกันกับการพิจารณาคดีนูเรมเบิร์ก ที่ใช้ตัดสินผู้นำของนาซีเยอรมนีหลังจากสงครามโลกครั้งที่สองจบลง เนื่องจากการกระทำของรัสเซียในยูเครนมีการเข่นฆ่าประชาชนจำนวนมาก โดยล่าสุดมีการเปิดเผยว่าพบศพประชาชนอย่างน้อย 410 ราย ที่ถูกทหารรัสเซียสังหารในบริเวณรอบนอกกรุงเคียฟ

“มันไม่มีอาชญากรรมใดแม้แต่กรณีเดียวที่พวกเขาไม่ได้ทำขึ้นในที่นั่น” เซเลนสกีกล่าวต่อหน้าคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ “รัสเซียได้ค้นหาและฆ่าผู้คนที่รับใช้ประเทศของพวกเราอย่างเจตนา พวกเขายิงและฆ่าผู้หญิงนอกบ้านของพวกเธอ พวกเขาฆ่าคนทั้งครอบครัว ทั้งผู้ใหญ่และเด็ก และพวกเขาพยายามจะเผาร่างทิ้ง” นอกจากนี้ ประธานาธิบดียูเครนยังได้ยืนยันว่ามีประชาชนถูกจับมัดมือไพล่หลัง และถูกกระสุนจ่อยิงระยะประชิด ก่อนทิ้งให้เสียชีวิตอยู่บนท้องถนน

เซเลนสีกล่าวเสริมถึงสิ่งที่เกิดขึ้นอีกว่า “พลเรือนถูกรถถังบดขยี้ขณะที่พวกเขากำลังนั่งอยู่ในรถของตัวเองกลางถนน เพื่อความพึงพอใจของพวกเขา (ทหารรัสเซีย) เอง” นอกจากนี้ ยังมีประชาชนที่ถูก “ตัดแขนขา เชือดคอ ผู้หญิงถูกข่มขืนและสังหารต่อหน้าลูกตนเอง ลิ้นของพวกเขาโดนตัดออกเพียงเพราะแค่ผู้รุกรานไม่ต้องการได้ยินในสิ่งที่ตนเองต้องการได้ยิน” ประธานาธิบดียูเครนกล่าวว่าการกระทำของรัสเซียในครั้งนี้ ไม่ต่างอะไรไปจากกลุ่มก่อการร้ายรัฐอิสลาม (IS) ในอิรักและซีเรีย

หลังจากการกล่าวถึงสถานการณ์ที่ยูเครนเจอมาตลอด 41 วันที่ผ่านมา พร้อมระบุว่าผู้นำรัสเซียและผู้ลงมือสังหารประชาชนจะต้องได้รับการพิจารณาคดีผ่านศาลระหว่างประเทศคล้ายกรณีนูเรมเบิร์กหลังสงครามโลกครั้งที่สอง เซเลนสกีได้เปิดภาพวิดีโอสิ่งที่เกิดขึ้นในเมืองบูชาต่อหน้าคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเพื่อย้ำว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในยูเครน พร้อมข้อความสั้นๆ ว่า “#StopRussianAggression” (หยุดการรุกรานของรัสเซีย)

อย่างไรก็ดี ตัวแทนจากรัสเซียต่างออกมาปฏิเสธว่า ภาพศพตามท้องถนนของยูเครนในเมืองบูชาถูก “จัดฉาก” ขึ้นโดยรัฐบาลยูเครน เพื่อทำการ “ยั่วยุ” พร้อมยืนยันว่า ศพดังกล่าวถูกนำมาวางหลังจากที่กองทัพรัสเซียได้ถอนทัพออกจากบริเวณโดยรอบกรุงเคียฟ อย่างไรก็ดี ทางการรัสเซียไม่มีหลักฐานยืนยันคำกล่าวอ้างของตนแต่อย่างใด ก่อนที่ทางสหรัฐฯ จะเปิดเผยภาพถ่ายดาวเทียมตั้งแต่ช่วงวันที่ 19 และ 21 มี.ค. ที่เปิดเผยให้เห็นว่า ศพที่มีการค้นพบยังคงอยู่ในตำแหน่งเดิม หรือช่วงก่อนที่กองทัพรัสเซียจะถอนทัพออกไปจากเมืองบูชา

ก่อนหน้านั้น เซเลนสกีได้ให้สัมภาษณ์กับทาง BBC หลังจากลงพื้นที่ในเมืองบูชาว่า ยูเครนจะยังคงเดินหน้าการเจรจาเพื่อสันติภาพกับทางรัสเซียต่อไป พร้อมยืนยันว่า “ยูเครนจะต้องมีสันติภาพ พวกเราอยู่ในยุโรป ณ ศตวรรษที่ 21 เราจะยังคงดำเนินการใช้ความพยายามทางการทูตและการทหารต่อไป”

รัสเซียเริ่มรุกรานยูเครนตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ. โดยล่าสุดมีการคาดการณ์ว่าชาวยูเครนอย่างน้อย 20,000 คนถูกสังหารโดยกองทัพรัสเซีย ในขณะที่มีผู้อพยพหนีภัยสงครามออกนอกยูเครนแล้วกว่า 4.2 ล้านราย นอกจากนี้ ยังมีประชาชนชาวยูเครนกว่าอีก 6.5 ล้านรายที่ต้องย้ายที่อยู่ของตนเองภายในประเทศเพื่อหนีตายจากการรุกรานของรัสเซีย


ที่มา:

https://www.theguardian.com/world/2022/apr/05/volodymyr-zelenskiy-un-security-council-russia-war-ukraine-bucha?CMP=Share_iOSApp_Other&fbclid=IwAR1CEKFMjGNjVwuoAR2Mi1KuDYrWaTgfmtaFJTYaxC8k9SsAToU23-_DU0w

https://www.ft.com/content/57430013-3b96-4f97-9f47-daaeed1c58d5