ไม่พบผลการค้นหา
ผู้นำยูเครนตัดสินใจลงนามขอยื่นใบสมัครเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป หลังการเจรจากับรัสเซียนาน 5 ชม.ไม่มีผลชัดเจน เตรียมหารือเพิ่มเติมและจัดการเจรจารอบ 2 เร็วๆ นี้

รัฐบาลยูเครนเผยแพร่ภาพ โวโลดิเมอร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดีของยูเครนลงนามอย่างเป็นทางการในใบสมัครเพื่อขอเข้าเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป หรือ EU ซึ่งแม้ว่าในแง่ความเป็นจริงแล้วจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นยาก และกระบวนการที่ยูเครนจะสามารถเข้าเป็นสมาชิกได้จริงจะต้องใช้เวลานานหลายปี แต่ความเคลื่อนไหวนี้ถือเป็นก้าวสำคัญจากยูเครน ซึ่งตรงกับข้อความหนึ่งที่ระบุไว้ในเอกสารว่า "นี่คือช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์"

การลงนามในใบสมัครคือขั้นตอนแรกที่ยังต้องผ่านกระบวนการอีกมากมาย และยูเครนเองก็ต้องใช้เวลาอีกหลายปีในการสร้างคุณสมบัติให้ครบถ้วนเพื่อผ่านมาตรฐานการรับรองเข้าเป็นชาติสมาชิก ขณะที่ท่าทีของ EU ตอนนี้ก็ยังไม่มีแนวโน้มที่จะเปิดรับสมาชิกใหม่ และหากมีการโหวตรับสมาชิกเพิ่มขึ้นจริงก็จะต้องได้รับเสียงสนับสนุนอย่างเป็นเอกฉันท์ ซึ่งหลายประเทศใน EU นั้นมีขั้นตอนการโหวตเลือกที่ซับซ้อนมาก

สำนักข่าว The Time Of Israel ชี้ว่า การตัดสินใจลงนามของเซเลนสกีในครั้งนี้จะสร้างความไม่พอใจอย่างมากให้กับ วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย เพราะที่ผ่านมาสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ปูตินต้องการก็คือการไม่ให้ยูเครนนั้นเข้าเป็นสมาชิกของกลุ่มก้อนการรวมตัวของชาติตะวันตกอย่างองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) ซึ่งการขอสมัครเป็นสมาชิก EU ก็ไม่ใช่เรื่องที่ผู้นำรัสเซียจะรู้สึกพึงพอใจอย่างแน่นอน

ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ยูเครนและรัสเซียได้ตกลงส่งคณะผู้แทนของทั้งสองประเทศเดินทางมายังบริเวณพรมแดนยูเครนและเบลารุสที่เมืองโกเมล เพื่อทำการพูดคุยเจรจาหาทางออกจากวิกฤตในครั้งนี้เมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมาซึ่งเป็นวันที่ 5 ของสงคราม 

หลังการเจรจาร่วม 5 ชม.ตั้งแต่เวลา 18.00 น.ปรากฎว่ายังไม่มีการทำข้องตกลงที่ชัดเจนร่วมกันแต่อย่างใด ทั้งสองชาติจะกลับไปหารือกับรัฐบาลของตนก่อนนัดเจรจารอบ 2 เร็วๆ นี้ โดยทางยูเครนต้องการให้รัสเซียยุติการยิง โจมตี และรุกราน ซึ่งการเจรจานี้เกิดขึ้นภายใต้ความกดดันจากรัสเซีย เมื่อประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ได้สั่งให้กองกำลังนิวเคลียร์ของกองทัพรัสเซีย “เตรียมพร้อมเป็นพิเศษ" ซึ่งเป็นระดับการแจ้งเตือนสูงสุดของกองกำลังขีปนาวุธทางยุทธศาสตร์ของรัสเซีย